บทก่อนหน้า

คำถามที่นำเสนอ บราเดอร์ อีวอล์ด แฟรงก์ โดยผู้รับใช้พระเจ้าจากหลายประเทศ

และฝ่ายผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้าต้องไม่เป็นคนที่ชอบการทะเลาะวิวาท แต่ต้องมีใจสุภาพต่อคนทั้งปวง เหมาะที่จะเป็นครูและมีความอดทน ด้วยความอ่อนสุภาพจงสอนคนเหล่านั้นที่ต่อสู้กับตัวเอง บางทีพระเจ้าอาจจะทรงโปรดให้เขากลับใจเสียใหม่มารับความจริง และเขาอาจหลุดพ้นบ่วงของพญามาร ผู้ซึ่งดักจับเขาไว้ให้ทำตามความประสงค์ของมัน (2 ทิโมธี 2: 24-26)

ในคำอธิบายนี้พวกเรากำลังเผชิญกับชีวิตและความตาย ในพระวจนะคือชีวิต ในการตีความมีความตาย การตีความทุกครั้งเป็นบ่วงที่ศัตรูวางไว้รอบคอของผู้คน พระองค์ทรงมิได้รัดบ่วงในทันทีเสมอไป แต่กระนั้นยังทรงรักษาผู้คนเหล่านี้ให้เป็นเชลยและกดขี่ข่มเหงพวกเขาตามความประสงค์ของเขา ตามที่กล่าวไว้ในข้อพระคัมภีร์อย่างชัดเจน

เนื่องจากผมได้รับใช้พระเจ้ามานานกว่าครึ่งศตวรรษ ความเชื่อมั่นบางประการจึงได้รับการยอมรับจากพี่น้องผู้รับใช้พระเจ้าอยู่ทั่วโลกโดยพระคุณของพระเจ้า พวกเขาตระหนักว่าพระเจ้าได้ทรงแต่งตั้งผมให้นำข่าวประเสริฐนิรันดร์ไปยังบรรดาประชาชาติของโลกนี้ หลังจากพันธกิจของบราเดอร์บรานฮาม ตอนนี้เป็นหน้าที่ของผมที่จะแบ่งปันพระวจนะอันแท้จริงของพระเจ้าให้กับประชากรของพระเจ้าโดยร่วมมือกับบรรดาผู้รับใช้ที่สัตย์ซื่อของพระองค์ทุกท่าน ดังเช่นในยุคสมัยของพระเยซูคริสต์ของพวกเราและในยุคสมัยของเหล่าอัครสาวกและเหล่าผู้เผยพระวจนะ ดังนั้นจึงมีข้อความในวันนี้ว่า “… บางข้อที่เข้าใจยาก ซึ่งคนทั้งหลายที่ไม่ได้เรียนรู้และไม่แน่นอนมั่นคงนั้นได้เปลี่ยนแปลงเสีย เหมือนเขาได้เปลี่ยนแปลงข้ออื่นๆ ในพระคัมภีร์ จึงเป็นเหตุกระทำให้ตัวพินาศ” (2 เปโตร 3:16) นี่เป็นกรณีตลอดมาทุกยุคทุกสมัย การตีความที่หลากหลายทำให้เกิดหน่วยงานจำนวนมากและความสับสนในหลักคำสอน แม้แต่ในพระธรรมเทศนา ณ เวลานี้ ผู้รับใช้พระเจ้าทั้งหลายที่มีความกังวลอย่างแท้จริงเกี่ยวกับความผาสุกฝ่ายวิญญาณของประชากรของพระเจ้ามิอาจจะยอมรับสถานการณ์ปัจจุบันนี้อีกต่อไปได้และกำลังขอคำชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ในคำถาม บุตรที่แท้จริงทั้งหลายของพระเจ้าทุกคนมีสิทธิ์และความปรารถนาที่จะรู้คำตอบที่ถูกต้องทั้งหลายซึ่งอยู่บนพื้นฐานของข้อพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเท่านั้น   

ผมรู้จักบราเดอร์บรานฮามเป็นการส่วนตัวและเป็นพยานถึงพันธกิจอันไม่ธรรมดาของท่าน ในเดือนสิงหาคมปี 1955 ผมได้เข้าร่วมการประชุมทั้งหลายของท่านตลอดทั้งสัปดาห์ ตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 1958 ผมเริ่มรับพวกเทปพระธรรมเทศนาที่ท่านได้เทศนาในสหรัฐอเมริกาทางไปรษณีย์และเริ่มแปลเป็นภาษาเยอรมันเป็นประจำ ในเดือนธันวาคม ปี 1962  ระหว่างการสนทนาเป็นการส่วนตัวกับบราเดอร์บรานฮาม ผมได้อธิบายให้ท่านฟังว่าผมทำเช่นนั้นได้อย่างไร โดยการใช้ชุดหูฟังเพื่อฟังพระธรรมเทศนาและแปลเป็นภาษาเยอรมันสำหรับพวกผู้ชมที่มาประชุมกัน ในปี 1963 ท่านจำเรื่องนี้ได้และได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า

“พันธกิจเทปเป็นสิ่งทั่วโลกทุกหนแห่ง ผมคิดว่ามันเป็นวิธีหนึ่งที่พระเจ้าได้ทรงเผยแพร่พระธรรมเทศนากลับไปสู่ดินแดนของพวกคนนอกรีต กลับไปในสถานที่ซึ่งมันต้องถูกแปล ในประเทศเยอรมนีพวกเขาได้รับเทปทั้งหลาย พวกเขาไปที่การประชุมของพวกเขาหลายร้อยและหลายร้อยคน และใช้สิ่งเล็กๆ นั้นใส่ไว้ในหูของพวกเขา และเปิดมันบนเทป และขณะที่ผมกำลังเทศนาอยู่ ผู้รับใช้พระเจ้ายืนอยู่ที่นั่นกำลังแสดงออกเหมือนกันในภาษาอื่นๆ และนำมันออกมาต่อหน้าคนหลายร้อย และหลายร้อยคนกำลังได้รับความรอดและหายโรคโดยผ่านเทปทั้งหลายที่ออกไปทั่วโลก ทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษแต่ถูกแปลเป็นภาษาต่างๆ มากมาย (ยุโรป) ในพวกชนเผ่า (แอฟริกาใต้) ทั่วโลก พวกเราได้ยินจากพวกเขาผ่านกลับมาทางไปรษณีย์” (คำพยาน, ชรีฟพอร์ต, ลอสแอนเจลีส, วี-17-เอ็น-5; วันพฤหัสบดี, 63-11-28) เห็นได้ชัดว่า บราเดอร์บรานฮามอ้างถึงซิดนีย์ แจ็คสัน ในแอฟริกาใต้และผม เพราะพวกเราเป็นพวกเดียวเท่านั้นที่แปลพระธรรมเทศนาของท่านในเวลานั้น

ในช่วงสี่สิบเจ็ดปีที่ผ่านมาผมได้อ่านและฟังพระธรรมเทศนาทั้งหลายของท่านซ้ำแล้วซ้ำอีกรวมทั้งแปลพวกมันด้วย ดังนั้นผมอาจจะพูดได้ว่าผมรู้จักพระธรรมเทศนายุคสุดท้ายจริงๆ ขณะที่คนอื่นๆ แทบจะไม่ ผมคุ้นเคยกับพระวจนะของพระเจ้า ข้อพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่ตอนต้นวัยหนุ่มของผม ความจริงที่ว่ามีศิษยาภิบาลน้อยท่านมากได้ถามว่า “ข้อพระคัมภีร์กล่าวว่าอย่างไร?” เมื่อการวางคำถามเหล่านี้ทำให้ผมสับสนมากสำหรับคำตอบทั้งหลายที่ผมให้จะต้องเป็นไปตามพระวจนะของพระเจ้า ซึ่งยังคงอยู่ตลอดกาล (อิสยาห์ 40:8; 1 เปโตร 1:23)

คำถามที่ 1:         ปัจจุบันนี้ตำแหน่งท่านต่อพันธกิจของบราเดอร์บรานฮามคืออะไร?

คำถามที่ 2:         ถ้อยคำที่แท้จริงของพระบัญชาที่ให้ไว้แก่ วิลเลี่ยม บรานฮาม คืออะไร?

คำถามที่ 3:         ความมั่นใจของท่านเกี่ยวกับเรื่อง “พระธรรมเทศนายุคสุดท้าย” คืออะไร?

คำถามที่ 4:         ท่านแก้ไขผู้เผยพระวจนะในบางประเด็นหรือไม่?

คำถามที่ 5:         สิ่งสมบูรณ์แบบที่สุดของท่านคืออะไร พระคัมภีร์ไบเบิลหรือพระธรรมเทศนา?

คำถามที่ 6:         ท่านสอนแตกต่างไปในการเปรียบเทียบจากสิ่งที่บราเดอร์บรานฮามสอนหรือไม่?

คำถามที่ 7:         ท่านเชื่อในการเปิดผนึกของตราประทับทั้งเจ็ดหรือไม่?

คำถามที่ 8:         ตราประทับที่เจ็ดได้รับการเปิดเผยสำแดงด้วยเช่นกันหรือไม่?

คำถามที่ 9:         ท่านเชื่อว่า วิวรณ์ 10: 1-7 สำเร็จแล้วในปี 1963 หรือไม่?

คำถามที่ 10:       ท่านเชื่อว่า บราเดอร์บรานฮามได้รับการเปิดเผยสำแดงของเสียงฟ้าร้องทั้งเจ็ดหรือไม่?

คำถามที่ 11:        เหตุใดบราเดอร์บรานฮามจึงกล่าวซ้ำๆ เกี่ยวกับ “การดึงครั้งที่สาม”?

คำถามที่ 12:        เหตุใดบราเดอร์บรานฮามจึงอ้างถึงพระธรรมวิวรณ์ บทที่ 10 ข้อ 7 บ่อยๆ?

คำถามที่ 13:        ท่านเชื่อในพันธกิจของผู้ส่งสาส์นคนที่แปดหรือไม่?

คำถามที่ 14:        ท่านเชื่อในคำสอนเรื่อง "การเสด็จมา (parousia)" หรือไม่?

คำถามที่ 15:        ท่านเชื่อว่า บุตรมนุษย์ได้มาปรากฏแล้วตาม ลูกา 21:27 หรือไม่?

คำถามที่ 16:        พันธกิจของท่านเกี่ยวกับอะไร? จะพบได้ในข้อพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์หรือไม่?

คำถามที่ 17:        ท่านเทศนาพระธรรมเทศนาทั้งหลายของบราเดอร์บรานฮามหรือไม่?

คำถามที่ 18:        อาหารฝ่ายวิญญาณคืออะไร พระธรรมเทศนาของบราเดอร์บรานฮามหรือพระคัมภีร์ไบเบิล?

คำถามที่ 19:        ผู้ใดจะนำเสนอคริสตจักรยุคสุดท้ายแด่พระเจ้า?

คำถามที่ 20:       ท่านโต้ตอบกับคนที่ใส่ร้ายชื่อของท่านอย่างไร?

คำถามที่ 21:        บราเดอร์บรานฮามสอนเรื่อง “พหุสมรส” หรือไม่?

คำถามที่ 22:        การสอนเรื่องการแต่งงานและการหย่าร้างของท่านคืออะไร?

คำถามที่ 23:        ครอบครัวของผู้รับใช้ของพระเจ้าเป็นอย่างไร?

คำถามที่ 24:        หนังสือคริสตจักรเจ็ดยุคเกี่ยวกับอะไร?

คำถามที่ 25:        ระยะเวลาของแต่ละยุคของคริสตจักรเจ็ดยุคได้รับการเปิดเผยสำแดงแก่บราเดอร์บรานฮามหรือไม่?

คำถามที่ 26:        บราเดอร์บรานฮามได้เผยพระวจนะว่า ในปี 1977 จะเป็นจุดจบหรือไม่?

คำถามที่ 27:        บราเดอร์บรานฮามได้เห็นปฏิทินที่จบลงในปี 1977 หรือไม่?

คำถามที่ 28:        การรับบัพติศมาโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์เหมือนกับการบังเกิดใหม่หรือไม่?

คำถามที่ 29:        นิมิตของเต็นท์ที่บราเดอร์บรานฮามมีเกี่ยวกับอะไร?

คำถามที่ 30:        บางสิ่งบางอย่างที่ปรากฏในนิมิตยังไม่เกิดขึ้นหรือไม่?

คำถามที่ 31:         พวกเราเปรียบเทียบอะไรระหว่างอิสราเอลกับคริสตจักร?

คำถามที่ 32:         ตอนนี้พวกเราอยู่ในขั้นตอนใดตามแผนการณ์แห่งความรอด?

 

พี่น้องที่รักยิ่งในพระเจ้า,

ถึง บุตรทั้งหลายของพระเจ้า,

ขอให้ผมพูดสิ่งนี้ก่อน: ผมอยากจะทำให้ชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้นตามที่พวกคุณจะเห็นในภายหลัง มันไม่ได้รับอนุญาตอย่างแน่นอนที่จะยึดคำสอนบนข้อพระคัมภีร์ข้อเดียวหรือบนถ้อยแถลงถ้อยคำเดียวที่พระเจ้าของพวกเรา, อัครสาวก หรือผู้เผยพระวจนะกล่าวไว้ มันต้องเป็นมาจากพระเจ้าซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างต้องถูกพบบนพยานสองหรือสามปาก (เฉลยธรรมบัญญัติ 19:15) บนข้อพระคัมภีร์สองหรือสามข้อหรือมากกว่า พวกเรามิได้มีพระกิตติคุณเพียงเล่มเดียวเท่านั้น แต่พวกเรามีพระกิตติคุณสี่เล่ม เพื่อให้การยืนยันและความครบถ้วนตามความจำเป็น ตัวอย่าง เช่น ถ้าหากพวกคุณมิได้รับพระมหาบัญชาที่พบใน มัทธิว 28:16-20, มาระโก 16:15-20, ลูกา 24:33-53 และ ยอห์น 20:19-31 โดยรวม พวกคุณไม่มีมันในทั้งหมดของมัน และถ้าพวกคุณไม่มีจากนั้นใช้สี่ส่วนเหล่านี้ของพระมหาบัญชาไปยัง กิจการ 2:38 และข้อพระคัมภีร์ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ทั้งหมด พวกคุณยังไม่มีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในเรื่องนี้ พวกคุณไม่มีคำตอบที่แท้จริงเกี่ยวกับการจัดการที่ถูกต้องของการบัพติศมาด้วยน้ำ

ผู้ใดก็ตามที่อยากจะรู้ทุกสิ่งทุกอย่างจริงๆ เกี่ยวกับการเกิด, ชีวิต, พันธกิจ, ความทรมาน และความตาย และรวมถึงเกี่ยวกับการฟื้นคืนพระชนม์ และการเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ของพระเจ้าและพระผู้ช่วยให้รอดของพวกเราจะต้องอ่านพระกิตติคุณทั้งสี่เล่ม และผู้ใดก็ตามที่อยากจะรู้ว่าพระเจ้าได้ทรงสอนเหล่าอัครสาวกของพระองค์เกี่ยวกับอาณาจักรของพระเจ้าเป็นเวลาสี่สิบวันก่อนที่จะเสด็จขึ้นไปบนสวรรค์จะต้องอ่านกิจการ 1:1-3 บางสิ่งบางอย่างที่ไม่รวมอยู่ในพระกิตติคุณทั้งสี่เล่มซึ่งพวกคุณค้นพบเพิ่มเติมต่อไป ตัวอย่าง เช่น พระเจ้าของพวกเราทรงถูกรับขึ้นไปบนสวรรค์บนก้อนเมฆซึ่งพวกคุณสามารถอ่านได้ในกิจการ บทที่ 1 ข้อ 9 จากนั้นในข้อ 11 พวกเราได้รับการบอกกล่าวว่าพระองค์จะเสด็จกลับมาด้วยพระกายในลักษณะเดียวกับที่พระองค์ได้ทรงถูกรับขึ้นไปสู่สวรรค์ (ลูกา 24:50-51) ใน 1 ยอห์น 3 พวกเราอ่าน “… เมื่อพระองค์เสด็จมาปรากฏนั้น เราทั้งหลายจะเป็นเหมือนพระองค์ เพราะ ว่าเราจะเห็นพระองค์อย่างที่พระองค์ทรงเป็นอยู่นั้น” อาเมน!

ผู้ใดก็ตามที่อยากจะเรียนรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงมาเชื่อพระเจ้าของ อ. เปาโล และพระบัญชาและพันธกิจของท่าน ไม่เพียงแต่อ่านกิจการบทที่ 9 เพียงเท่านั้น พวกคุณต้องรวมบทที่ 22 และบทที่ 26 เพื่อจะให้ได้ภาพรวมของความเข้าใจและแม้แต่ 1 โครินธ์ 15:1-11 เพราะเป็นอัครสาวกเปาโล - ไม่ใช่เปโตร – ผู้ซึ่งได้รายงานว่า พระเยซูเจ้าได้ทรงปรากฏแก่พี่น้องมากกว่า 500 คนในเวลาเดียวกันหลังจากการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์ จากตัวอย่างทั้งหลายเหล่านี้พวกเราสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่า มันไม่เพียงพอที่จะใช้ข้อพระคัมภีร์เพียงข้อเดียว แต่พวกเราต้องรวมข้อพระคัมภีร์ทั้งหมดที่เกี่ยว ข้องกับหัวข้อเรื่องเดียวกัน

นอกจากนี้พวกเรายังต้องฟังคำเตือนของอัครสาวกเปาโลที่ให้ไว้ใน 2 โครินธ์ 11:1-4 เกี่ยวกับวิธีที่ซาตาน งูดึกดำบรรพ์ที่ได้ล่อลวงเอวา เมื่อมันพูดกับเอวา มันเพียงแต่เพิ่มคำเพียงคำเดียวว่า “ไม่” ดั่งที่พบในปฐมกาล 3:1 ในสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงสั่งอาดัมไว้ในปฐมกาล 2:16 นั่นคือวิธีที่มันนำนางมาอยู่ภายใต้อิทธิพลของมันโดยตรงและพานางไปเป็นเชลยตามความต้องการของมัน ศัตรูยังคงอภิปรายหัวข้อเรื่องที่พระเจ้าตรัสอยู่เสมอ แต่ไม่เคยรักษาถ้อยคำที่แน่นอน – มันไม่เคยอยู่ในความจริงของพระวจนะแรกเริ่ม ถ้อยแถลงชัดเจนมากว่า “พวกเจ้ากินได้จากต้นไม้ทุกต้นในสวนอย่างอิสระ…” ศัตรูหว่านความสงสัยโดยกล่าวว่า “ใช่แล้ว พระเจ้าได้ตรัสแล้วว่า เจ้าจะไม่กินผลจากต้นไม้ทุกต้นในสวน?” คำเดียวนั้นซึ่งถูกเพิ่มไว้ในสิ่งที่พระเจ้าตรัสไว้ในตอนแรกกลายเป็นการกัดด้วยพิษของงู ดังนั้นคู่แรกและจากนั้นมนุษยชาติทั้งหมดถูกตัดสินสู่ความตายและแยกออกจากพระเจ้า ประการแรกบุตรมนุษย์หว่านเมล็ดพืชแท้อันบริสุทธิ์แห่งพระวจนะของพระเจ้า และจากนั้นศัตรูได้มาหว่านเมล็ดพืชแห่งความขัดแย้งกันในทันทีด้วยวิธีการของการตีความ (มัทธิว 13) นั่นคือวิธีการที่มันนำพวกเขาไปเป็นเชลยและส่งพวกเขาไปตามความประสงค์ของมัน นี่เป็นเวลาที่พวกคนของพระเจ้าจะได้รับการปลดปล่อยจากบ่วงทั้งหมดของศัตรูและถูกนำกลับไปสู่น้ำพระทัยของพระเจ้า

การหลอกลวงใดๆ ที่ถูกทำให้เชื่อได้ในความคิดของมนุษย์โดยการเพิ่มและจากนั้นการเข้าใจผิดและการตีความตีความคำๆ เดียว คำเตือนที่จะไม่เพิ่มหรือตัดออกจากคำเผยพระวจนะของหนังสือเล่มนี้จะต้องดำเนินการอย่างจริงจังมาก (วิวรณ์ 22:18-19) เพราะผลทั้งหลายที่ตามมาจะไม่กลับคืนมาแน่นอน สำหรับคำถามตามพระคัมภีร์ไบเบิลทุกคำถาม สำหรับทุกเรื่องมีคำตอบที่แท้จริงเพียงข้อเดียวเท่านั้น ซึ่งสามารถพบได้ในข้อพระคัมภีร์ทั้งหลายที่เกี่ยวข้อง การตีความต่างๆ มากมายเป็นการงานของศัตรู - เป็นผลมาจากการกินจากต้นไม้แห่งความรู้ เช่นเดียวกับคำสอนที่แตกต่างกันจำนวนมากภายในพระธรรมเทศนายุคสุดท้าย ถ้าหากพวกเรานำทุกสิ่งกลับไปยังข้อพระคัมภีร์ทั้งหลายเพื่อจะค้นหาคำตอบที่แท้จริงแล้วจึงมิอาจจะเกิดความเข้าใจผิดได้ ความสนใจของผู้รับใช้พระเจ้าทุกท่านและที่ประชุมทั้งหมดจะต้องมุ่งเน้นไปที่ความปรองดองและความเคารพอย่างยิ่งต่อพระวจนะของพระเจ้า ซึ่งเป็นสิ่งเดียวเท่านั้นที่สมบูรณ์ที่สุดในฟ้าสวรรค์และบนแผ่นดินโลก ในพระธรรมเทศนาที่ยาวที่สุดที่บราเดอร์บรานฮามได้เทศนาเรื่อง “พระวาทะทรงเป็นเมล็ดพืชแรกเริ่ม” (18 มีนาคม 1962) ซึ่งรวมทั้งหมดเป็นเวลานานกว่าหกชั่วโมง พวกเราเห็นความโดดเด่นที่ท่านได้อ้างถึงพระวจนะของพระเจ้า “…ถ้าเขาไม่พูดตามคำเหล่านี้ก็เพราะในตัวเขาไม่มีแสงสว่างเสียเลย” (อิสยาห์ 8:20)

เป็นที่ยอมรับว่ามีพวกข้อความที่ยากในพระวจนะของพระเจ้าและในพระธรรมเทศนาด้วยเช่นกัน ข้อความทั้งหลายที่พวกเราต้องวางลงไปในพระดำรัสของพระเจ้าอย่างถูกต้อง ยกตัวอย่าง เช่น พระเจ้าของพวกเราตรัสย้อนกลับไปว่า “…ก่อนที่ท่านจะไปทั่วนครต่างๆ ในอิสราเอล บุตรมนุษย์จะเสด็จมา ... (มัทธิว 10:23) พระองค์ตรัสด้วยว่า "เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ในพวกท่านที่ยืนอยู่ที่นี่ มีบางคนที่จะไม่รู้รสความตายจนกว่าจะได้เห็นอาณาจักรของพระเจ้ามาด้วยฤทธานุภาพ" (มาระโก 9:1) พวกเราต้องดูพวกข้อความดังกล่าวในบริบทที่ถูกต้องตามแผนการณ์แห่งความรอดและในการบรรลุเป้าหมายของพวกมัน พระราชบัญญัติและเหล่าผู้เผยพระวจนะเป็นจนกระทั่งยอห์น (ลูกา 16:16) ตั้งแต่เวลานั้นที่เรื่องอาณาจักรของพระเจ้าได้ถูกเทศนาในวันเพ็นเทคอสต์มันลงมาพร้อมกับฤทธิ์อำนาจ ตามที่ประกาศโดยยอห์นผู้ให้รับบัพติศมาในมัทธิว 3:2 และโดยพระเจ้าของพวกเราในมัทธิว 4:17: คริสตจักรบังเกิดมา ได้รับชีวิตฝ่ายวิญญาณ และความรอดที่มีสง่าราศีดำเนินไปในท่ามกลางพวกเขา ในวิวรณ์ บทที่ 1 ยอห์นเห็นบุตรมนุษย์ทรงดำเนินอยู่ในพระสิริของพระองค์ท่ามกลางคริสตจักรของพระองค์ โดยมีเชิงเทียนทองคำเจ็ดเล่มเป็นตัวแทน

อัครสาวกเปาโลได้รวมตัวของเขาเองไว้เมื่อเขากล่าวว่า “ดูก่อน ข้าพเจ้ามีความลึกลับที่จะบอกแก่ท่าน คือว่า เราจะไม่ล่วงหลับหมดทุกคน แต่เราจะถูกเปลี่ยนแปลงใหม่หมด” (1 โครินธ์ 15:51) ตอนนี้พวกเราคาดหวังว่าจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว อัครสาวกเปโตรได้ประกาศเกี่ยวกับข้อพระคัมภีร์ต่างๆ และจดหมายทั้งหลายของอัครสาวกเปาโล โดยกล่าวว่าบางสิ่งบางอย่างยากที่จะเข้าใจ (2 เปโตร 3:15-16) ไม่มีใครกล้าอธิบายหรือสร้างหลักคำสอนในสิ่งที่บราเดอร์บรานฮามได้กล่าวไว้ในถ้อยแถลงทั้งหลายที่เข้าใจยาก ตัวอย่าง เช่น ท่านกล่าวว่า “และเมื่อตราประทับทั้งหลายแตกออกแล้วและมีการเปิดเผยความลึกลับ ทูตสวรรค์, ผู้ส่งสาส์น, พระคริสต์ ลงมาเหยียบพระบาทของพระองค์บนบกและในทะเลพร้อมกับรุ้งเหนือพระเศียรของพระองค์ ตอนนี้จำได้ไหมครับว่า ทูตสวรรค์องค์ที่เจ็ดองค์นี้อยู่บนแผ่นดินโลกในเวลาที่มาถึงนี้” บราเดอร์บรานฮามอยู่บนโลกเมื่อ “ทูตสวรรค์แห่งพันธสัญญา” ทรงเปิดเผยตนเองในเมฆเหนือธรรมชาติ อ้างถึง: “ทูตสวรรค์องค์ใหญ่แห่งพันธสัญญา ผู้ซึ่งทรงอยู่กับโมเสสในถิ่นทุรกันดาร ผู้ที่เสด็จมาหา อ. เปาโล บนถนนสู่เมืองดามัสกัส องค์เดียวกันนั้นที่ทรงอนุญาตให้นำพระฉายของพระองค์ได้รับการบันทึกภาพถ่ายไว้ให้กับพวกเรา องค์เดียวกันที่อยู่ในรูปภาพในนิตยสารไลฟ์วันก่อน พระวจนะเดียวกันโดยพระเจ้าองค์เดียวกัน …” (พระเยซูทรงเป็นความลึกลับของพระเจ้าที่ได้ถูกเปิดเผย หน้า 93)

ท่านยังกล่าวอีกว่า “และที่นี่พระองค์เสด็จกลับมาในบทที่ 10 หลังจากเวลาการเสด็จมา …” หลังจากเวลาของการเสด็จมามีนัยอะไร? การเสด็จมาครั้งใดที่กำลังอ้างถึงอยู่? และการเสด็จมาในบทที่ 10 หลังจากเวลาการเสด็จมาหมายถึงผู้ใด และอื่นๆ? เพียงไม่กี่นาทีต่อมาบราเดอร์บรานฮามกล่าวว่า “พระองค์ทรงรับเจ้าสาวคนต่างชาติและจะทรงรับนางไปจากที่นี่ไปยังพระราชวัง ไปที่พระนิเวศน์ของพระบิดาของพระองค์ในพระสิริสำหรับพิธีอภิเษกสมรสและจะเสด็จกลับลงมาเพื่อจะทำให้พระองค์เองทรงเป็นที่รู้จักแก่พี่น้อง 144,000 คน” นักเทศน์ทั้งหลายควรจะให้ความสนใจกับพวกข้อความเฉพาะที่วางพวกมันอย่างถูกต้องด้วยเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับพวกมัน และหยุดการนำเสนอมุมมองของพวกเขาทันที! เพราะไม่มีข้อพระคัมภีร์ใดของอัครสาวกเปาโลหรือของบราเดอร์บรานฮามที่อนุญาตให้มีการตีความเป็นการส่วนตัวใดๆ พระเจ้าทรงเป็นผู้ตีความของพระองค์เอง พระองค์ทรงเฝ้าดูพระวจนะของพระองค์เพื่อจะทรงกระทำสิ่งที่พระองค์สัญญาไว้ให้สำเร็จ ประชากรของพระเจ้าควรจะหยุดทันทีที่จะเชื่อการตีความใดๆ ที่กำลังอยู่ในการหมุนเวียน! ตอนนี้คริสตจักรเจ้าสาวของพระคริสต์จะต้องถูกนำกลับเข้ามาในขั้นตอนเพื่อจะดำเนินไปอีกครั้งหนึ่งในความปรองดองและความเป็นหนึ่งเดียวกันที่สมบูรณ์แบบกับเจ้าบ่าว ซึ่งการเสด็จกลับมาใกล้แล้ว และสอดคล้องกับพระวจนะของพระเจ้าทุกถ้อยคำ! เวลาแห่งการตัดสินใจมาถึงแล้ว

 

บทถัดไป