ตอนนี้ผมจะไม่... [จุดว่างบนเทป] นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เคยทำในการประชุมทั้งหลายของผมตั้งแต่ผมได้อยู่ในสนามนี้มาครับ นี่เป็นเวลาใหม่ บราเดอร์แบ็กซ์เตอร์ไปแล้ว และ – และบราเดอร์บอสเวิร์ธอยู่ในอินเดียหรือในแอฟริกา และบราเดอร์แบ็กซ์เตอร์ ผมไม่ทราบครับว่าเขาอยู่ที่ไหน เขาได้ไปที่บางแห่ง และคนที่เหลือของพวกเขาก็ออกไปและไปแล้ว และบิลลี่กับผมอยู่ที่นี่ตามลำพัง ดังนั้นพวกเราจึงมีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม เพียงขึ้นมา, มีการละเล่น และการรับประทานอาหาร ดังนั้นพวกเรา - พวกเรารู้สึกเหมือนว่าพวกเราอาจจะทำได้... ด้วยความช่วยเหลือของพระเจ้า พวกเราสามารถดำเนินการประชุมได้โดยวิธีของพวกเราเอง นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมดีใจมากที่ได้เห็นมันไปต่ออีกนิดหน่อยเพราะเหตุผลเดียว ผมเชื่อว่าพระเจ้าจะทรงช่วยให้พวกเราทำเช่นนั้น

ตอนนี้พวกคุณรู้ไหมครับว่า มี... ผมชอบการจัดการของผม ผมมีพี่น้องที่น่ารักบางท่าน: บอสเวอร์ธ, แบ๊กซ์เตอร์, ลินด์เซย์, มัวร์ ทั้งหมดมีห้าท่าน บารอนฟอน บลัมเบิร์ก พวกเขาเป็นคนดีมาก แต่มีบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับเมื่อคุณมีกลุ่มคนด้วยกัน คนหนึ่งมีเรื่องหนึ่ง คนหนึ่งมีเรื่องอื่น บางครั้งนั่นขัดแย้งกับสิ่งที่ผมคิดด้วยตัวของผมเอง ดังนั้นผม-ผม-ผมรู้สึกเหมือนตอนนี้ผมเป็นอิสระและพวกเราก็สามารถมีช่วงเวลาที่ดีได้ (อ่ะ-อ่ะ) เพียงแค่ม้วนแขนเสื้อของพวกเราขึ้นมาและเพียงแค่ดำน้ำและรับประทานอาหาร ผม-ผมคิดถึงเรื่องการม้วนแขนเสื้อของพวกคุณขึ้นมา และมีช่วงเวลาที่ดี... [จุดว่างบนเทป]

พระคัมภีร์ไบเบิลฉบับแรกของผมเป็นธรรมชาติ ผมได้เรียนรู้พระเจ้าผ่านธรรมชาติ และผมสามารถตกปลาได้ โอ้ ผมชอบตกปลา และคุณชอบที่จะตกปลาไหม เด็กชายซันนี่? ถ้าหากคุณชอบตกปลา และรักคุณแม่ของคุณ จะทำให้คุณเป็นเด็กดี และแม้กระทั่งการเปลี่ยนแปลงมาเชื่อพระเจ้าของผมก็ไม่ได้นำทุกอย่างออกไปจากผม ดังนั้นวันหนึ่งผมได้ขึ้นไปบนภูเขาเพื่อไปตกปลา ตอนนี้นี่เป็นเพียงเพื่อประโยชน์ของเด็กชายเล็กๆ คนนี้ และผมได้ขึ้นภูเขาไปตกปลา และสำหรับเด็กเล็กๆ คนอื่นๆ แน่นอนครับ ตั้งอยู่รอบๆ... และผมกำลังตกปลาเทราท์อยู่ และ โอ้ มันยอดเยี่ยมในฤดูใบไม้ผลิ ผมได้ตามไปเช่นนั้น มีปลาเทราท์ตัวหนึ่งอยู่ในรูถัดไป คุณรู้ไหมครับ เหมือนอย่างนั้น และสรรเสริญพระเจ้าและมีช่วงเวลาที่ดี บางครั้งตะโกน ปล่อยสายเบ็ดตกปลาของผมลงไปในน้ำ ผมเชื่อในการตะโกน อาเมน ผมแน่ใจว่าผมเชื่อ เพราะผมรู้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างจะพูดกับผม และมันทำบางสิ่งบางอย่างกับผม

ดังนั้นผมจึงได้หายตัวไปสักพักหนึ่งตอนเช้านั้น และเมื่อผมกลับมา สิ่งที่แปลกประหลาดที่สุด... มีพวกหมีเป็นจำนวนมากขึ้นไปอยู่ในรัฐนิวแฮมป์เชอร์ ผมมีค่ายเล็กๆ ขึ้นไปอยู่ที่นั่นสถานที่ซึ่งผมตกปลา และผมมีเต็นท์เล็กๆ ที่ตั้งขึ้นมา เต็นท์เก่าของเด็กหนุ่มที่ผมเคยอาศัยอยู่ และหมีดำเป็นสิ่งซุกซนที่สุดที่มี ดังนั้นแม่หมีแก่ตัวหนึ่งและมีลูกหมีน้อยสองสามตัวได้เข้าไปในที่นั่น และพวกมันทำให้เกิดความยุ่งเหยิงในเต็นท์ของผม

ตอนนี้คุณคิดว่าผมควรจะทำอะไรกับหมีตัวนั้น ตัวเมียตัวเล็กๆ ที่มีขนสีแดงที่ข้างหลังนั่น? ผมน่าจะต้องติดตามมันจริงๆ หรือผมไม่ควรเล่าครับ?

แต่นี่คือสิ่งที่นางได้ทำ นางเข้ามาข้างใน; นางฉีกเต็นท์ของผมลง และนางทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างกระจัดกระจายออกไป และกินอาหารทั้งหมดของผมซึ่งผมมีอยู่ที่นั่น และนางก็สบายๆ ดังนั้นเมื่อผมขึ้นมา นางจึงหนีไป และนางก็ร้องเสียงแหลมให้พวกลูกหมีน้อยไปกับนาง และอีกตัวหนึ่งก็วิ่งออกไปกับนาง และอีกตัวหนึ่งไม่ได้วิ่ง เขาเพียงอยู่ที่นั่น เขาหันหลังให้ผมเหมือนอย่างนี้ และเขากำลังทำบางสิ่งบางอย่างอยู่ และผมไม่มีอะไรอยู่ในมือนอกจากขวานเล็กๆ ด้ามหนึ่งซึ่งผมเคยใช้สับต้นไม้กับผู้อาวุโสบางท่านลงไปที่นั่น ดีล่ะครับ นางวิ่งหนีไปไกลถึงขนาด โอ้ ผมคิดว่าเสาโทรศัพท์ออกไปที่ข้างนอกนั่น และนางได้ลงไป นางร้องเสียงแหลมมายังหมีน้อยตัวนี้ และเขาไม่ได้สนใจมันเลย เขายังอยู่ที่นั่นต่อไป

ผมคิดว่าเจ้าตัวน้อยตัวนี้กำลังทำอะไรอยู่? ผมเดินเข้าไปใกล้ๆ มากขึ้น และผมกลัวที่จะเข้าใกล้เกินไป และกลัวว่านางจะข่วนผม ดังนั้นผมจึงไม่สามารถมองเห็นต้นไม้ และผมรู้ว่านางอาจจะปีนขึ้นไปได้ด้วย และผมไม่อยากจะเข้าไปใกล้นางมากเกินไป เพราะผมรู้จักธรรมชาติของหมี ดังนั้นผมจึงเข้าไปใกล้ขึ้นอีกเล็กน้อย และคุณรู้ไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้น?

ตอนนี้ผมชอบแพนเค้ก มีพวกคุณเด็กผู้ชายกี่คนที่ชอบแพนเค้กบ้างครับ? โอ้ เด็กชาย! โอ้ เด็กชายอาวุโสหลายคนด้วย ผมเห็นพวกเขายกมือของพวกเขาขึ้น พวกเราทุกคนชอบแพนเค้ก และผมก็ชอบพวกมัน และผมชอบราดน้ำผึ้งบนพวกมัน การเป็นแบ๊บติสต์ คุณรู้ไหมครับว่า นั่นคือสิ่งที่ช่วยให้พวกเรายืดตรงออกไปได้ คุณรู้ไหมครับว่าน้ำผึ้งเป็น คุณรู้ ดังนั้นและให้ฟังครับ ผมไม่ประพรมน้ำบนพวกเขา ผมให้บัพติศมาพวกเขาจริงๆ ผมเทมันลงอย่างดีและหนักจริงๆ ผมไม่ได้เพียงแค่ประพรมน้ำเล็กน้อยบนที่นี่และที่นั่น ผมเทมันลงบนพวกเขาจริงๆ ให้พวกเขาทุกคนเต็มไปด้วยน้ำผึ้ง

และจากนั้นคุณรู้ไหมครับว่า ผมมีถังน้ำผึ้งถังหนึ่งอยู่ที่นั่น ถังน้ำผึ้งครึ่งแกลลอน และพวกหมีชอบน้ำผึ้งมากๆ ดังนั้นเจ้าตัวน้อยตัวนี้จึงเข้ามาที่นั่นและเปิดฝาปิดถังน้ำผึ้งถังนั้นออก และเขาก็นั่งอยู่ที่นั่นเหมือนอย่างนี้กับถังน้ำผึ้งน้อยๆ ที่อยู่ใต้แขนของเขาเหมือนอย่างนี้ และเขาไม่รู้ว่าจะกินมันเหมือนคุณได้อย่างไร คุณรู้ไหมครับ ดังนั้นเขาจึงจุ่มอุ้งเท้าเล็กๆ ของเขาลงไปแล้วเลียเช่นนั้นและเลียมัน และเขาหมุนตัวมามองผมและดวงตาคู่เล็กๆ ของเขาก็ขมวดเข้าไปด้วยกัน พุงน้อยๆ ของเขาก็เป็นมันมากเท่าที่จะเป็นได้ด้วยน้ำผึ้ง เขากำลังนั่งอยู่ที่นั่นจุ่มมือของเขาลงไปและเลียน้ำผึ้งเหมือนอย่างนั้นอย่างแรงเท่าที่เขาสามารถเลียได้

โอ้! ผมคิดถึงการประชุมพระวิญญาณบริสุทธิ์อันดีในสมัยก่อน เมื่อพวกเราเพิ่งเปิดถัง แปะมือของพวกเราจุ่มลงในโถและเลียไป แค่ทำต่อไป คุณรู้ไหมครับ ด้วยการเลียไป

และคุณรู้ไหมครับว่าสิ่งที่ตลกคืออะไร? หลังจากที่เจ้าตัวน้อยนั้นทำได้มากเท่าที่เขาทำได้ เขาก็ปล่อยถังลงและวิ่งออกไปที่นั่น คุณรู้ไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้น? แม่หมีและลูกหมีตัวน้อยอีกตัวหนึ่งได้เลียเขา-ทำให้น้ำผึ้งออกไป

ดังนั้น ดีล่ะครับ ผมหวังว่าบางทีการประชุมของพวกเราจะเป็นบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ในลำดับนั้น ดังนั้นพวกเราจึงสามารถบอกคนอื่นๆ ต่อไปได้ และพระสิริของพระเจ้าเทลงบนพวกเรา ตกลงครับ

ผมดีใจที่ได้เห็นเด็กเล็กๆ ออกมา ผมชอบบอกบางสิ่งบางอย่างกับพวกคุณเหมือนอย่างนั้น และบางทีตอนบ่ายวันพรุ่งนี้ พวกเรามีเวลามากขึ้นและพวกเราสามารถพูดได้มากขึ้นอีกเล็กน้อย และตอนนี้พวกเราจะพูดบางสิ่งบางอย่างกับคุณพ่อและคุณแม่ได้

และพวกเราจะพูดเกี่ยวกับเรื่อง ปีศาจวิทยา ในพระธรรมสดุดี บทที่ 103 ข้อ 1 ถึง 3 พวกเราอ่านข้อพระคัมภีร์เหล่านี้ ผู้รับใช้พระเจ้า, นักบวช หรือนักอ่านพระคัมภีร์ไบเบิลทุกท่านส่วนใหญ่รู้จักพวกมันขึ้นใจ

โอ จิตใจของข้าเอ๋ย จงถวายสาธุการแด่พระเยโฮวาห์ และทั้งสิ้นที่อยู่ภายในข้า จงถวายสาธุการแด่พระนามบริสุทธิ์ของพระองค์

โอ จิตใจของข้าเอ๋ย จงถวายสาธุการแด่พระเยโฮวาห์ และอย่าลืมพระราชกิจอันมีพระคุณทั้งสิ้นของพระองค์

ผู้ทรงอภัยความชั่วช้าทั้งสิ้นของท่าน ผู้ทรงรักษาโรคทั้งสิ้นของท่าน

ผมอยากจะให้คุณสังเกตเห็นที่นั่น มันคือทั้งหมด: "ผู้ทรงอภัยความชั่วช้าทั้งสิ้นของท่าน ผู้ทรงรักษาโรคทั้งสิ้นของท่าน" ตอนนี้ให้พวกเราก้มศีรษะของพวกเราลงสักครู่หนึ่งครับ

เวลานี้ พระบิดาแห่งฟ้าสวรรค์ ข้าพระองค์ทั้งหลายขอบพระคุณพระองค์สำหรับการทรงสถิตอยู่ข้างนอกที่นี่ตอนบ่ายวันนี้ ข้าพระองค์ทั้งหลายขอบพระคุณพระองค์สำหรับเด็กเล็กๆ เหล่านี้ที่กำลังนั่งอยู่รอบๆ พวกเขาจะเป็นพวกชายและหญิงในวันพรุ่งนี้ ถ้าหากมีวันพรุ่งนี้ ถ้าหากพระเยซูทรงเชื่องช้า

และเวลานี้ พระบิดา ข้าพระองค์ทั้งหลายอธิษฐานขอให้พระองค์ทรงอวยพรข้าพระองค์ทั้งหลายเวลานี้ขณะที่ข้าพระองค์ทั้งหลายกำลังกล่าวถึงพระวจนะของพระองค์ตอนนี้ และเกี่ยวกับศัตรูจำนวนมากที่ข้าพระองค์ทั้งหลายมี: ซาตาน ข้าพระองค์ทั้งหลายอธิษฐานขอพระเจ้าที่พระองค์จะทรงปล่อยหน่วยยานยนต์แห่งฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าที่นี่ให้นำหน้าข้าพระองค์ทั้งหลายออกไป เพื่อจะต้านทานมันในคืนนี้ในทุกนิ้วของพื้นที่ของมัน พระบิดา และแสดงให้มันเห็นว่า มันไม่มีสิทธิ์ตามกฎใดๆ เลย เพราะพระคริสต์ได้ทรงทำให้มันพ่ายแพ้แก่พระองค์ในสถานที่ของข้าพระองค์ทั้งหลายที่โกละโกธาเมื่อพระองค์ได้ทรงสิ้นพระชนม์ และพระองค์ได้ทรงทำลายเทพผู้ครองทั้งหลายและได้ทรงปล้นอำนาจทุกอย่างที่ซาตานมีแล้ว

และพระเจ้า โปรดประทานสติปัญญาและความเข้าใจให้แก่ข้าพระองค์ทั้งหลายในเวลานี้เถิด เพื่อจะรู้จักและอธิบายให้แก่คนทั้งหลายได้ว่า พวกเขาจะรู้จักวิธีการได้รับการเยียวยารักษาโรคและจะมีชัยชนะต่อซาตานได้อย่างไร ข้าพระองค์ทั้งหลายอธิษฐานในพระนามพระเยซู อาเมน

ตอนนี้สักสองสามนาทีพวกเราจะเทศนาเกี่ยวกับปีศาจวิทยา คุณได้ฟังมามากเกี่ยวกับพวกปีศาจ คราวนี้ตอนบ่ายวันพรุ่งนี้พวกเราอาจจะจบเรื่องนี้ได้ อย่างไรก็ตามผมต้องการสองวันของสัปดาห์นี้ เพื่อจะเทศนาเรื่องนี้ เพียงแค่... หรือสองวันสำหรับการประชุมรอบบ่ายเพื่อจะเทศนาเกี่ยวกับเรื่องนี้

ตอนนี้สิ่งแรก ปีศาจคืออะไร คุณได้ยินผู้คนจำนวนมากพูดเกี่ยวกับเรื่องปีศาจ ดีล่ะครับ ตอนนี้มี "ปีศาจ, วิญญาณชั่ว" ทั้งหมดมาจากคำหนึ่งคำ และในภาษาอังกฤษเรียกมันว่า "ผู้ทรมาน" ผู้ที่ทำให้ทุกข์ทรมานนั้นคือปีศาจ, วิญญาณชั่ว ตอนนี้พระคัมภีร์ไบเบิลวันนี้คือ สำหรับผู้คนจำนวนมากส่วนมากคือ หนังสือเก่าๆ ที่ข้างหลังบางเล่มซึ่งคุณปู่และคุณย่าอ่าน หรือบางสิ่งบางอย่างเช่นนั้น "มันไม่มีอะไรมากนักเกี่ยวกับมัน มันสำหรับพวกคนแก่" และอื่นๆ แต่นั่นไม่ถูกต้องครับ มันสำหรับทุกคน และพวกปีศาจเป็นพวกผู้ทรมานที่ทรมานพวกเรา

ตอนนี้มีพวกปีศาจที่เข้ามาในจิตวิญญาณของมนุษย์และนั่นคือ ในวลีที่จะอยู่ใน.... ผมจะพูดแบบนี้ครับ แม้กระทั่ง ปีศาจที่เข้ามาในจิตวิญญาณนั้นเป็นบางสิ่งบางอย่างที่ทรมานจิตวิญญาณนั้น

หลายครั้งหลายคราที่คุณอาจจะเห็นคนๆ หนึ่งที่อาจจะเป็นบ้า ตอนนี้พวกเขาอาจจะเป็นคนที่เปลี่ยนแปลงมาเชื่อพระเจ้าแล้ว เต็มไปด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ และยังเป็นคนวิกลจริตได้ ดูเถิดครับ นั่นใช่ครับ นั่นไม่มีส่วนใดเกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณนั้น มันเป็นผู้ทรมาน บางสิ่งบางอย่างที่ทรมานพวกเขา

ตอนนี้ความเจ็บป่วยทั้งหมด พวกเราต้องพบก่อนว่า ทุกความเจ็บป่วยมาจากวิญญาณชั่ว พระเจ้ามิได้ทรงเป็นผู้ประพันธ์ความเจ็บป่วย ไม่มีความเจ็บป่วยใดๆ ที่มาจากพระเจ้า บางครั้งพระเจ้าทรงอนุญาตให้ซาตานใส่ความเจ็บป่วยให้แก่คุณเหมือนเป็นแส้เพื่อจะพาคุณกลับไปที่พระนิเวศน์ของพระเจ้า เมื่อคุณไม่เชื่อฟังพระองค์ แต่กระนั้นความเจ็บป่วยในตอนเริ่มต้นมาจากวิญญาณชั่ว คุณอาจจะสามารถจินตนาการได้หรือไม่ครับว่า คนๆ หนึ่งอาจจะเชื่อพระเจ้า พระบิดาแห่งฟ้าสวรรค์ของพวกเราจะทรงเป็นผู้ประพันธ์เรื่องความเจ็บป่วยและความตาย? ดีล่ะครับ ไม่ครับ พระองค์มิได้ทรงเป็น พระองค์ทมิได้ทรงเคยเป็น จะไม่ทรงเป็น พระเจ้าทรงอนุญาตให้เสียชีวิตได้เนื่องจากไม่เชื่อฟัง พระเจ้าทรงอนุญาตให้เสียชีวิตได้ ดั่งที่นักเขียนคนหนึ่งกล่าวไว้ว่า "ความตายทุกอย่างที่อาจจะทำได้ พระเจ้าได้ทรงกุมบังเหียนมันไว้กับรถม้า และมันดึงพวกเราเข้าไปยังการทรงสถิตของพระเจ้า (ผู้เชื่อ)" นอกจากนั้นคำว่า ความตาย หมายถึง "การแยกทาง"

พระเยซูตรัสว่า "ผู้ใดที่ฟังคำของเราและเชื่อในพระองค์ผู้ทรงใช้เรามา ผู้นั้นก็มีชีวิตนิรันดร์" พระองค์ตรัสว่า "เราเป็นเหตุให้คนทั้งปวงเป็นขึ้นและมีชีวิต ผู้ที่เชื่อในเรานั้น ถึงแม้ว่าเขาตายแล้วก็ยังจะมีชีวิตอีก และผู้ใดที่มีชีวิตและเชื่อในเราจะไม่ตายเลย" และพวกเราห่อศพทั้งหลายของกันและกันเหนือผู้ที่ไม่ใช่ธรรมิกชนของหลุมฝังศพของพวกเรา "แต่เขาจะไม่ตาย"

ตอนนี้ถ้าหากคุณจะจับตาดูเมื่อพระองค์ทรงกล่าวถึงลาซารัส พระองค์ตรัสว่า "ลาซารัสหลับไปแล้ว"

เหล่าสาวกทั้งหลาย (คนทั้งหลายเหมือนอย่างพวกเรา) พวกเขากล่าวว่า "โอ้ ถ้าหากเขาหลับอยู่เขาก็จะสบายดี" พระองค์ทรงหมายถึงกำลังพักผ่อนอยู่ - สิ่งที่พวกเขาคิด

แต่กระนั้นพระองค์เสด็จมาและได้ทรงบอกกับพวกเขาในภาษาของพวกเขา พระองค์ตรัสว่า "เขาตายแล้ว" สิ่งที่คุณเชื่อ แต่ได้ตรัสว่า "เราจะไปปลุกเขาตื่น" ปลุกเขาตื่น ดูเถิดครับ เมื่อคุณ....

ความตาย หมายถึง "การแยกทาง" ตอนนี้ถ้าหากคนหนึ่งคนในพวกคุณอาจจะ ... คนหนึ่งคนในครอบครัวของคุณเสียชีวิตหรือบางสิ่งบางอย่าง เขาเป็น (ถ้าหากเขาได้เปลี่ยนแปลงมาเชื่อพระเจ้าแล้ว) พวกเขาไม่ตาย พวกเขาตายในมุมมองของมนุษย์ แต่กระนั้นพวกเขาเพียงแค่แยกออกไปจากพวกเรา นอกจากนั้นพวกเขาอยู่ต่อเบื้องพระพักตร์พระเจ้า พวกเขาไม่ตาย และพวกเขามิอาจจะตายได้ มันเป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาที่จะตาย พระเยซูตรัสว่า "ผู้ใดที่ฟังคำของเราและเชื่อในพระองค์ผู้ทรงใช้เรามา ผู้นั้นก็มีชีวิตนิรันดร์ และจะไม่ถูกพิพากษา แต่ได้ผ่านพ้นความตายไปสู่ชีวิตแล้ว" ดังนั้นเขาจึงตายไม่ได้ สิ่งใดที่เป็นอมตะ - นิรันดร์ – มันมิอาจจะพินาศได้ มันคือชีวิตที่ไม่พินาศ เขามีสิ่งนี้เพราะพระเจ้าได้ประทานไว้ให้แก่เขา และมิใช่เพราะสมควรได้รับ; มันไม่มีเงื่อนไข พระเจ้าประทานสิ่งนี้ให้แก่เขา

พระเจ้าทรงเรียก ไม่มีมนุษย์คนใดมาถึงพระเจ้าได้เว้นแต่พระเจ้าได้ทรงเรียกเขา พระเยซูตรัสว่า "ไม่มีผู้ใดมาถึงเราได้นอกจากพระบิดาทรงเรียกเขา ... ทรงชักนำให้เขามา" นั่นถูกต้องไหมครับ? ดังนั้นนั่นทรงเป็นพระเจ้าในทั้งหมด บางทีตอนบ่ายวันพรุ่งนี้ พวกเราจะกล่าวถึงเรื่องนั้นสักหน่อยเพราะว่าผมอยากจะพูดสิ่งนี้เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บให้แก่พวกคุณเพื่อพวกคุณจะเข้าใจเรื่องนั้น

มีเวลาหนึ่งตอนที่พวกเราเริ่มกลายเป็นเชื้อแห่งชีวิตกับคุณปู่ทวดของพวกเรา คุณรู้ไหมครับ คุณหมอรู้เรื่องนั้น ดีล่ะครับ คุณรู้ด้วยเช่นกัน พวกคุณนักอ่านพระคัมภีร์ไบเบิล คุณรู้ไหมครับว่า เชื้อแห่งชีวิตได้เริ่มต้นในคุณปู่ทวดของคุณเพื่อจะกลายเป็นเชื้อหนึ่งเชื้อ และออกมาผ่านคุณปู่ของคุณ จากนั้นเข้าไปในคุณพ่อของคุณ จากนั้นไปยังคุณแม่ของคุณและสถานที่ซึ่งคุณอยู่ตอนนี้ นั่นแหล่ะครับ แม้แต่ข้อพระคัมภีร์ไบเบิลก็สอนเรื่องนั้น นี่เป็นข้อพระคัมภีร์สำหรับคุณถ้าหากคุณต้องการ ผมเชื่อว่ามันกล่าวว่า เลวีได้ถวายสิบชักหนึ่งตอนที่เขาอยู่ในเอวของอับราฮัม ซึ่งเป็นคุณปู่ทวดของเขา นั่นถูกต้องไหมครับ? แต่เห็นไหมครับ เชื้อนั้นกลายเป็นกลับมาที่นั่น

แต่กระนั้นจิตวิญญาณทั้งหลายของพวกคุณได้รับการทรงสร้างขึ้นมาก่อนการสถาปนาโลก เมื่อพระเจ้าได้ทรงสร้างมนุษย์ตามพระฉายของพระองค์ วิญญาณของมนุษย์ .... มิใช่มนุษย์ในรูปแบบของเขาเอง แต่เป็นมนุษย์ในพระฉายของพระองค์เอง ดูเถิดครับ และจากนั้นพระองค์ได้ทรงสร้างพวกเขาให้เป็นชายและหญิงก่อนที่พระองค์จะเคยทรงมีคนๆ หนึ่งอยู่ในผงคลีดินของแผ่นดินโลกนี้ หวังว่าพวกเรามีโอกาสตอนบ่ายนี้เพื่อจะใช้เวลาของพวกเราและกลับเข้าไปยังเรื่องนั้น ให้ดูว่า พระเจ้า....  ตอนนี้มันอยู่ระหว่างแถวนั้น แต่เมื่อคุณเห็นมัน มันตรงขึ้นมาพร้อมกับแถว ดูเถิดครับ พระเจ้าทรงกลับไปในปฐมกาลได้อย่างไร สิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำที่นั่น และพระองค์ได้ทรงเคลื่อนลงไปในแผ่นดินโลกได้อย่างไร และพระองค์ได้ทรงสร้างมนุษย์ในพระฉายของพระองค์ได้อย่างไร และจากนั้นพระเจ้าได้ทรงหันไปรอบๆ ได้รับการทรงสร้างขึ้นในรูปแบบของมนุษย์เพื่อจะทรงไถ่มนุษย์

ตอนนี้เมื่อพระเจ้าได้ทรงสร้างมนุษย์ตามพระฉายของพระองค์แล้ว เขาเป็นมนุษย์ที่ประกอบด้วยวิญญาณ และมันก็เป็นจากนั้นมาไม่มีมนุษย์คนใดมาถึงดิน ดังนั้นพระองค์จึงทรงสร้างมนุษย์ออกมาจากผงคลีดินของแผ่นดินโลก ตอนนี้พวกนักโบราณคดีและคนอื่นๆ และคนเหล่านี้ที่ค้นหาและมีกระดูกเก่าๆ และอื่นๆ และเชื่อมั่นในวิวัฒนาการ .... ผมเชื่อในวิวัฒนาการประเภทที่ถูกต้อง มนุษย์มีวิวัฒนาการมาจากตัวของเขาเอง แต่มิใช่ทั้งหมดจากเซลล์ๆ เดียว ไม่ครับท่าน เพราะนกก็เป็นนกมานับตั้งแต่ที่พระเจ้าได้ทรงสร้างมันให้เป็นนก และลิงก็เป็นลิง มนุษย์ก็เป็นมนุษย์ นั่นถูกต้องครับ

ทีนี้ผมกำลังสนทนากับคุณหมอท่านหนึ่งที่นี่ขณะหนึ่งกลับไปในเมืองหลุยส์วิลล์ เขากล่าวว่า "ทำไม ศาสนาจารย์บรานฮาม...." ผมกำลังพูดถึงพวกชาวพื้นเมืองของแอฟริกาว่า พวกเขากินอย่างไร แค่ลงไปด้วย ... โอ้ บางสิ่งที่แย่ที่สุดที่คุณอาจจะได้เคยเห็นมา พวกเขากินได้อย่างไร! หยิบสิ่งต่างๆ ที่ปนเปื้อน และพวกตัวหนอนอยู่ในมัน เพียงแค่เขย่าพวกมันไปรอบๆ ตัวหนอนและทุกอย่าง ไม่ได้สร้างความแตกต่างใดๆ ให้แก่เขา ดูเถิดครับ ดื่มทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ได้สร้างความแตกต่างใดๆ สิ่งที่มันเป็น เขาบอกว่า "ดีล่ะครับ บราเดอร์บรานฮาม พวกเขาไม่ใช่มนุษย์" ผมบอกว่า "โอ้ ใช่ครับ พวกเขาเป็น พวกเขาเป็นมนุษย์อย่างแน่นอน"

ผมบอกว่า "สิ่งที่ใกล้เคียงที่สุดกับการเป็นมนุษย์ในสายพันธุ์สัตว์ป่าคือ ลิงชิมแปนซี และคุณได้พยายามมาเป็นเวลากว่าสี่พันปีเพื่อจะให้ลิงชิมแปนซีนั้นเอ่ยปากอ้ำอึ้งออกมาได้สักคำหนึ่ง และมันมิอาจจะทำอย่างนั้นได้" ผมบอกว่า "เพราะว่ามันไม่สามารถคิดได้ มันไม่มีอะไรจะคิด โอ้ คุณอาจจะให้มันเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ได้-เหมือนม้าตัวหนึ่ง, 'กี' และ 'ฮอว์', หรือใส่แว่นตา,  หรือสูบซิการ์, หรือการทรงตัวของมันให้สมดุลย์บนรถจักรยาน, ขี่ม้า, หรือบางสิ่งบางอย่างเหมือนอย่างนั้น แต่มันก็เป็นเหมือนกับ 'กี' และ 'ฮอว์' กับม้า หรือกับสุนัข หรือบางสิ่งบางอย่างเหมือนอย่างนั้น" ผมบอกว่า "มันเป็นสัตว์ตัวหนึ่ง”

"แต่คุณให้ผมกลับไปในแอฟริกา ไปยังเผ่าป่าเถื่อนที่สุดที่พวกเขามี และนั่นคือชนเผ่าเล็กๆ ของเผ่าบุช-แมน" และผมบอกว่า  "น่าจะเป็นคุณปู่ทวดบรรพบุรุษหลายรุ่นก่อนของเขาที่ไม่เคยเห็นผู้ชายผิวขาวคนหนึ่งหรือไม่เคยเห็นอะไรมาก่อนเลย สิ่งเดียวเท่านั้นที่เขารู้ ... เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอันไหนเป็นมือขวาและมือซ้าย สิ่งเดียวเท่านั้นที่เขารู้คือ กิน และเขากินสิ่งที่เขาได้รับบนมือของเขา ถ้าหากมันเป็นเนื้อมนุษย์ สิ่งอื่นใดไม่ได้ทำให้เกิดความแตกต่างใดๆ กับเขา ดังนั้นเขาจึงกิน แต่กระนั้นขอให้ผมได้ดูแลเขาตอนอายุห้าขวบ และเมื่ออายุสิบห้าปีเขาจะพูดภาษาอังกฤษได้ดีและมีการศึกษาดี ทำไมเล่าครับ? เขามีจิตวิญญาณ พระเจ้าได้ทรงสร้างให้เขาเป็นมนุษย์ และเขามีสิทธิมากพอเท่าที่จะได้ฟังข่าวประเสริฐอย่างน้อยหนึ่งครั้งในขณะที่พวกเรามีการเทศนารอบๆ ที่นี่ทั่วอเมริกาให้แก่คนทั้งหลายซ้ำๆ หลายต่อหลายครั้ง และด้วยการขอร้อง, การชักชวน และทุกสิ่งทุกอย่าง ขอให้เขาได้ฟังมันหนึ่งครั้ง และจับตาดูเขาร้องเสียงดังและวิ่งไปยังแท่นบูชาอย่างรวดเร็วจริงๆ" ดูเถิดครับ ใช่ครับท่าน!

และนั่นคือสิ่งที่ใจของผมเป็นวันนี้ บราเดอร์ เมื่อผมคิดถึงแอฟริกา และพวกเขาพวกคนยากจน, ตัวเล็กๆ, มือดำๆ ทั้งหลายที่ยกขึ้นมา บอกว่า "บราเดอร์บรานฮาม ขออีกครั้งหนึ่งเกี่ยวกับพระเยซู!" โอ้ พระเมตตา! มีบางสิ่งบางอย่างขุดและเผาภายในผม ทันทีที่ผมได้รับเงินมากเพียงพอผมก็ไปที่นั่นด้วยเช่นกัน นั่นคือสิ่งที่ผมทำกับเงินทุกๆ เพ็นนีที่ผมได้รับ ทุกสิ่งทุกอย่าง - พระเจ้าทรงรู้ – นอกเหนือจากสิ่งที่ผมสามารถรับประทานได้ และคนส่วนใหญ่ให้เสื้อผ้าแก่ผม และสิ่งที่ผมสามารถอยู่ได้ด้วยตัวของผมเองเพียงเท่าที่ผมจะสามารถทำได้ ผมโยนมันตรงลงไปในกองทุนมิชชันนารี (ซึ่งรัฐบาลได้จัดไว้ให้ ผมไม่ต้องจ่ายแม้แต่ภาษีรายได้จากมัน) จนกระทั่งผมได้รับสามหรือสี่, ห้าพันเหรียญดอลล่าร์ และผมจะข้ามไปที่นั่นและเทศนาข่าวประเสริฐให้แก่คนทั้งหลาย ซึ่งผมรู้ว่าผมจะต้องตอบในวันนั้น และผมจะรู้สิ่งที่ผมตอบ

เมื่อผมได้ไปที่เมืองๆ หนึ่ง ผมได้จัดการประชุมใหญ่เมื่อพวกเขามีเงินเยอะ และพวกเขามีแคมเปญใหญ่และเงินหลายพันเหรียญ - ผมจะมอบมันให้กับสภากาชาดและอื่นๆ ตอนนี้ไม่ได้กระแทกกระทั้นพวกเขา แต่ด้วยการเดินลงไปที่ถนนในรถสี่พันดอลลาร์กับการสวมเพชรเม็ดใหญ่ สูบบุหรี่ซิการ์ และห้าร้อยดอลลาร์ต่อสัปดาห์ของเงินที่ผู้คนที่เจ็บป่วย ... ไม่ครับท่าน! ไม่จำเป็น! และบน ... เหล่านี้ และทันทีที่คุณออกจากเมืองนี้ไป พวกเขาบอกว่า "โฮลี่ โรลเลอร์” คนเคร่งศาสนาที่ส่งเสียงดังและวิ่งไปมาตอนนมัสการ" และทุกอย่างเหมือนอย่างนั้น และทำให้ตลกขบขัน และทำให้ศาสนาที่พวกเรากำลังลุกขึ้นยืนอยู่นั้นตกต่ำลง ไม่ครับท่าน!

ผมรับมันด้วยตัวผมเอง และ (ต่อเบื้องพระพักตร์พระเจ้าผู้ทรงเป็นผู้พิพากษาของผม) ผมใส่มันไว้ในการงานของข่าวประเสริฐที่โน่น ดังนั้นผมจึงรู้ว่า ในวันนั้นตอนที่ผมต้องถวายรายงานสำหรับการอารักขาของผม มันจะถูกต้อง นั่นใช่อย่างแน่นอนครับ เพราะผมตระหนักดีว่าในขณะที่ผมรับใช้คนทั้งหลายผมก็กำลังรับใช้พระเจ้า ทัศนคติของผมต่อคุณคือ ทัศนคติของผมต่อพระคริสต์ ทัศนคติของพวกคุณต่อผมเป็นสิ่งเดียวกัน (นั่นแหล่ะครับ) ต่อพระคริสต์

ตอนนี้เพื่อจะเห็นคนแบบนั้น .... และเห็นว่าจากนั้นมนุษย์คนนั้นด้วยจิตวิญญาณที่เป็นอมตะตอนนี้ – ที่มิอาจจะตายได้ มิอาจจะพินาศได้ มิอาจจะทำอะไรได้นอกจากมีชีวิตนิรันดร์ – ซึ่งพระเจ้าในน้ำพระทัยสูงสุดของพระองค์เองได้ประทานไว้ให้แก่คุณแล้ว และตอนนี้ จากนั้น เวลานี้....

ขอให้ผมแก้ไขเรื่องนี้สักหน่อยครับ หรือพูดอะไรบางอย่าง มีคนบางคนกำลังจะถอยห่างไปและบอกว่า "บราเดอร์บรานฮามเป็นคาลวินนิสต์" ไม่ใช่ครับ ผมไม่ได้เป็น ผมเป็นคาลวินนิสต์ตราบเท่าที่คาลวินนิสต์อยู่ในพระคัมภีร์ไบเบิล แต่เมื่อคาลวินนิสต์ออกไปจากพระคัมภีร์ไบเบิลแล้ว ดังนั้นผมเป็นอาร์มีเนียน ดูเถิดครับ ผมเชื่อในโฮลี่เนส และผมเชื่อในคาลวินนิสต์ด้วยเช่นกัน แต่กระนั้นพวกเขาทั้งคู่.... พวกหนึ่งได้วิ่งออกไปบนกิ่งหนึ่งและได้ไปทางนี้ และพวกหนึ่งได้วิ่งออกไปบนกิ่งหนึ่งและได้ไปทางนั้น ถ้าหากมันไม่ใช่เพราะหนังสือเอเฟซัสที่จะนำมันกลับมาและวางมันไว้ในสถานที่ที่ถูกต้องซึ่งพระเจ้าได้ทรงกระทำแล้ว พวกเราทุกคนจะต้องผสมปนเปขึ้นไปกันหมด นอกจากนั้นพวกเขาทั้งคู่มีหลักคำสอนอย่างหนึ่ง แต่พวกเขาไปเพาะเมล็ดพืชบนมัน นั่นคือพวกโฮลี่เนสและพวกคาลวินนิสต์ด้วยเช่นกัน ... พวกอาร์มิเนียน ตอนนี้พวกคาลวินนิสต์มีบางสิ่งบางอย่างที่จริง ผมเชื่อว่าหลักคำสอนคาลวินนิสต์....

ผมเชื่อเรื่องนี้ในเรื่องความมั่นคง: ผมเชื่อว่าคริสตจักรมีความมั่นคงนิรันดร์ ผู้อ่านพระคัมภีร์ไบเบิลทุกคนรู้ดีว่า เพราะว่าพระเจ้าได้ทรงกล่าวไว้แล้วว่า มันจะปรากฏขึ้นโดยปราศจากตำหนิ นั่นถูกต้องไหมครับ? จากนั้นมันกำลังจะอยู่ที่นั่น นั่นใช่ไหมครับ? คริสตจักรมีความมั่นคงนิรันดร์ ตอนนี้คุณอยู่ในคริสตจักรหรือยังครับ เป็นสิ่งต่อไป ถ้าหากคุณอยู่ในคริสตจักร ตกลงครับ คุณปลอดภัยกับคริสตจักร แต่คุณควรจะอยู่ในคริสตจักรมากกว่า และคุณจะเข้าไปในคริสตจักรได้อย่างไร? ด้วยการจับมือหรือครับ? ไม่ใช่ครับ การจดชื่อคุณในหนังสือหรือครับ? ไม่ใช่ครับท่าน "โดยพระวิญญาณองค์เดียวกัน พวกเราทุกคนได้รับบัพติศมาเข้าไปในกายเดียวกัน" และกายนั้นที่พระเจ้าได้ทรงพิพากษาที่โกละโกธา (เป็นพระกายของพระเยซูคริสต์) และพวกเราได้รับบัพติศมาเข้าไปยังกายนั้นด้วยพระวิญญาณองค์เดียวกัน พวกเรามีความมั่นคงนิรันดร์ตราบเท่าที่พวกเราอยู่ในพระกายของพระคริสต์ ไม่มีสิ่งใดสามารถแยกพวกเราออกไปได้ ไม่มีอะไรสามารถแตะต้องพวกเราได้ ถ้าหากคุณออกไป คุณออกไปตามใจของคุณเอง แต่แน่นอน (ถ้าหากคุณอยู่ในพระกายของพระเยซูคริสต์) ว่า พระเยซูได้ทรงฟื้นคืนพระชนม์จากความตาย คุณก็จะฟื้นคืนชีพขึ้นมาด้วยเช่นกัน พระเจ้าได้ทรงกระทำเช่นนั้นแล้ว

คุณมิอาจจะทำบาปได้ โอ้ ผมอาจจะเป็นคนบาปในสายตาของคุณ แต่ถ้าหากผมอยู่ในพระคริสต์ พระเจ้ามิอาจจะทรงเห็นมันได้ เพราะบาปของเขาได้ถูกลบมลทินแล้ว.... พระโลหิตของพระองค์ได้ลบมลทินเพื่อบาปทั้งสิ้นของผมที่นั่น ดูเถิดครับ ผมมิอาจจะทำบาปได้ "ผู้ใดก็ตามที่บังเกิดจากพระเจ้า ผู้นั้นไม่กระทำบาป เพราะว่าเมล็ดของพระองค์ดำรงอยู่ในผู้นั้น" ดูเถิดครับ เขาตั้งใจจะ.... ถ้าหากเขาได้ทำบางสิ่งบางอย่างผิดพลาดไป แน่นอนครับ จากนั้นเขาก็เต็มใจที่จะสารภาพมัน ถ้าหากเขาเป็นคริสเตียนแท้ เขาจะทำเช่นนั้น ถ้าหากเขายื้อยุดมันไว้ เขาแสดงให้เห็นว่า เขาไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นในตอนแรก นั่นใช่ครับ เขาไม่มีอะไรที่จะเริ่มต้นด้วย แต่ถ้าหากเขาเป็นคริสเตียนแท้....

ณ ที่นี่ คุณปลูกข้าวสาลีในดิน มันจะเป็นข้าวสาลี ตั๊กแตนวัยกระโดดอาจจะอยู่รอบๆ มัน และทุกสิ่งทุกอย่างอื่นๆ แต่มันจะเป็นข้าวสาลีตราบเท่าที่มันเป็น นั่นใช่ไหมครับ? และถ้าหากคนๆ หนึ่งบังเกิดจากพระวิญญาณของพระเจ้าจริงๆ  เขาก็ไม่เข้าๆ และออกๆ และกลับไปกลับมา และออกไปที่โน่นในโลกและออกไปที่นี่ ไม่ครับท่าน ไม่ ไม่ใช่ครับ คุณไม่ได้เป็นตั๊กแตนวัยกระโดดวันหนึ่งและข้าวสาลีในวันรุ่งขึ้น พระเจ้ามิได้ทรงมีอย่างนั้นในท้องทุ่ง ใช่ครับท่าน ถ้าหากคุณบังเกิดจากพระวิญญาณของพระเจ้า คุณเป็นคริสเตียนนับตั้งแต่เวลานั้นจนกระทั่ง ... จนกว่าคุณจะจากไป และดังนั้นคุณจึงเป็นอมตะกับพระเจ้า นั่นใช่ครับ ถ้าหากคุณอยู่ในคริสตจักร

คราวนี้ตอนนี้ให้พวกเราพูดเกี่ยวกับด้านความตาย ตอนนี้คนที่อยู่ในฐานันดรนั้น ในสภาพเช่นนั้น เคยเจ็บป่วยได้อย่างไรเล่าครับ? เพราะร่างกายของคุณยังไม่ได้รับการไถ่ ร่างกายของคุณไม่ได้รับการไถ่ ไม่ว่าจะมากแค่ไหน ... คุณจะดีอย่างไร และใจบุญอย่างไร และติดสนิทอย่างไร มีพระวิญญาณบริสุทธิ์มากเพียงใดก็ตาม นั่นเป็นเพียงจิตวิญญาณของคุณเท่านั้น และจิตวิญญาณของคุณยังไม่เสร็จสมบูรณ์ มันเพียงแค่ได้รับพระพร พระสัญญาของพระเจ้า ซึ่งเป็นความรอดของพวกเราอย่างตั้งใจจริง แต่กระนั้นตอนนี้ถ้าหากพวกเราไม่มีในการฟื้นคืนชีพของพวกเราอย่างตั้งใจจริง ไม่มีการเยียวยารักษาโรคของพระเจ้า จากนั้นผมจะไม่มีหลักประกันหรือไม่มีอะไรที่จะพิสูจน์ให้แก่ผมได้ว่ามีการฟื้นคืนชีพ

เช่นเดียวกันถ้าหากพระเยซูมิได้ทรงสถิตย์อยู่ในใจของผม ถ้าหากผมต้องนำมันมาจากสิ่งทางจิตวิทยาบางอย่างข้างหลังโน้น ต้องเชื่อว่าบางแห่งเหมือนอย่างนั้น ดีล่ะครับ ดังนั้นผมคงจะกังขาเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่บ้าง และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้พวกเขามาถึงแอฟริกา เมื่อพวกเขามาที่นี่มีพวกมิชชันนารีขึ้นมาถึง นำชาวพื้นเมืองหลายพันคนเหล่านั้นมา และพวกเขากำลังห่อพวกรูปเคารพชิ้นเล็กๆ อันเก่าแก่ที่ทำด้วยโคลน และอื่นๆ ทุกสิ่งทุกอย่าง เนื่องจากพวกเขาเพิ่งฟังเรื่องฝ่ายวิญญาณของพระคัมภีร์ไบเบิล นั่นแหล่ะครับ ในคริสตจักรทั้งหลายของผมเอง แบ๊บติสต์, เมธอดิสท์, เพรสไบทีเรียน ทุกคนที่ได้ไปในที่นั่น แต่เมื่อพวกเขาได้เห็นฤทธิ์อำนาจของพระเจ้ามาในการสำแดง นั่นทำให้มันจบเรื่อง! พวกเขารู้แล้วว่า พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้า

ดีล่ะครับตอนนี้ สิ่งใดที่เริ่มความเจ็บป่วยนี้เล่าครับ? ตอนนี้สิ่งแรกคือ มันเป็นวิญญาณก่อนที่มันจะกลายเป็นโรคร้าย  เช่นเดียวกับที่คุณเป็นวิญญาณก่อนที่คุณจะกลายเป็นมนุษย์ ตอนนี้ผมจะใช้บราเดอร์วิลเล็ตต์ที่นี่มาเป็นตัวอย่าง บราเดอร์วิลเลตต์มีครั้งหนึ่งที่คุณและผมไม่ได้เป็นอะไร และจากนั้นสิ่งแรก พระเจ้าได้ประทานชีวิต และให้พวกเราใช้ พูดได้ว่า ถ้าหากผมนำตัวคุณลงมาตอนบ่ายนี้ .... คุณได้รับการทรงสร้างขึ้นมาจากกลุ่มหนึ่งของเซลล์ทั้งหลายที่รวมเข้าด้วยกันกับอะตอมทั้งหลาย และตอนนี้สักวันหนึ่งอะตอมทั้งหลายพวกมันจะถูกทำลาย ถ้าหากพระเยซูทรงเชื่องช้า คุณจะไปด้านหลัง พวกเขาจะเป็นเหมือนที่พวกเขาเป็นในปฐมกาล กลับเข้าไปในอากาศ แต่เมื่อวิญญาณของคุณกลับมา พวกอะตอมเหล่านั้นจะรวมเข้าด้วยกันอีกครั้งหนึ่งกับวิญญาณนี้ และนำมาซึ่งบราเดอร์วิลเล็ตต์อีกคนหนึ่งซึ่งเหมือนคนนั้น เพียงแค่อายุน้อยกว่าเท่านั้น – เมื่อเขาได้เป็นอย่างดีที่สุดของเขา

เมื่อคนๆ หนึ่งมีอายุประมาณยี่สิบห้าปีล่วงไปแล้ว เขาพบรอยย่นใต้ดวงตาของเขาเล็กน้อยและกำลังจะมีผมสีเทา มันกำลังจะเป็นเพราะความตายติดตามคุณมา และสักวันหนึ่งในยุคนี้มันจะพาคุณไป ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม มันจะพาคุณไป แต่มันค่อยๆ.... คุณจะจนมุมที่นี่ และพระเจ้าจะทรงรับคุณออกไปจากมุมนั้น และคุณจะมาในมุมนี้ที่นี่ ความตายเกือบจะได้คุณไป และที่นี่ แต่หลังจากนั้นสักพักหนึ่งมันจะช่วยคุณได้ แต่จากนั้นสิ่งที่ความตายสามารถทำได้ มันใช้ค่าธรรมเนียมผ่านทางเต็มราคาของมัน และจากนั้นเมื่อมันได้ทำทุกอย่างที่มันสามารถทำได้.... เมื่อพระเจ้าได้ประทานชีวิตนี้ให้แก่คุณ และคุณได้ทำอย่างดีที่สุดของคุณที่ประมาณอายุยี่สิบสามปี เมื่อคุณเข้ามาในการฟื้นคืนชีพ คุณจะกลับมาเหมือนคุณตอนที่คุณอายุยี่สิบสามปีหรือยี่สิบห้าปีก่อนที่ความตายจะเข้ามา ความตายจะมีทุกสิ่งทุกอย่างที่มันสามารถทำได้ มันตั้งอยู่ในที่นั่น แต่คุณจะกลับมาในวิถีทางที่คุณได้เป็น

ทีนี้ถ้าหากเซลล์แต่ละเซลล์ของคุณในร่างกายของคุณ.... ให้พวกเรานำมันลงมาตอนนี้ คุณมีเซลล์หลังจากเซลล์ เซลล์หลังจากเซลล์มา และวางมันไว้ที่นี่บนเวทีนี้ หลังจากเซลล์แต่ละเซลล์ในร่างกายของคุณ คุณจะลงมายังเชื้อเล็กๆ เชื้อหนึ่งที่คุณได้เริ่มต้น ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ คุณต้องมองภายใต้แว่นสายตา ผมได้เห็นเชื้อแห่งชีวิตภายใต้กล้องจุลทรรศน์ มันดูเหมือนกับเส้นด้ายเล็กๆ และสิ่งแรกที่เริ่มต้นในนั้นคือ กระดูกสันหลัง มันเหมือนปมเล็กๆ ปมหนึ่ง นั่นเป็นเซลล์เล็กๆ เซลล์แรกที่สะสมอยู่ด้านบนสุดของเซลล์ๆ หนึ่ง

ตอนนี้ถ้าหากผมต้องนำเซลล์เล็กๆ เซลล์หนึ่งที่พวกคุณทุกคนมาจากเซลล์นั้น เชื้อเล็กๆ เชื้อหนึ่ง .... เชื้อคืออะไร? เชื้อเป็น ... เล็กที่สุดของเซลล์ ดีล่ะครับ เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้นเล่าครับ? ตอนนี้ผมได้นำคุณลงมาจากชิ้นส่วนของคุณทุกชิ้น ลงไปยังเซลล์เล็กๆ นี้เซลล์เดียว และผมก็ยังไม่ได้พบคุณ ผมแค่วางพวกเซลล์ของคุณไว้ ดีล่ะครับ จากนั้นสิ่งต่อไป พวกเซลล์เม็ดเลือดและพวกเซลล์เนื้อหนัง และสิ่งใดก็ตามที่พวกมันเป็น (วางพวกมันทั้งหมดออกไปที่นี่) แต่ผมก็ยังไม่ได้พบคุณ ตอนนี้ผมลงมายังเชื้อๆ หนึ่ง ดีล่ะครับ ผมกำลังจะนำเซลล์เล็กๆ นั้นออกไปจากกัน ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนเล่าครับ? ชีวิตของคุณ และชีวิตทำให้เกิดเซลล์ๆ แรกซึ่งเป็นเชื้อๆ หนึ่ง จากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างตามหลังธรรมชาติของมันมา: สุนัขหลังจากสุนัข, นกหลังจากนก, มนุษย์หลังจากมนุษย์ การพัฒนาเซลล์ทั้งหลาย เซลล์บนเซลล์ เซลล์บนเซลล์ มาถึงสถานที่ซึ่งคุณเป็น (มนุษย์) การพัฒนาเซลล์ทั้งหลาย ตอนนี้นั่นได้รับการกำหนดจากพระเจ้าให้เป็นเช่นนั้น

แต่กระนั้นตอนนี้ สิ่งที่เกี่ยวกับโรคมะเร็งคืออะไร? ให้พวกเราพูดถึงมันสักหน่อยครับ ทีนี้พระเจ้าได้ประทานชีวิตของคุณให้แก่คุณ และบอกว่า คุณอยู่ที่นี่วันนี้ ผมอยู่ที่นี่ ไม่มีอะไรอยู่ในมือของผม แต่อาจจะมีโรคมะเร็งในมือของผมบางครั้ง ดีล่ะครับ  โรคมะเร็งนั้นมาที่นั่นได้อย่างไร? ให้พวกเราดูว่าโรคมะเร็งนั้นคืออะไร ให้พวกเรานำเขาออกไป ให้พวกเรานำเขาไป... ตอนนี้เขาเป็นกลุ่มของพวกเซลล์ด้วยเช่นกัน คุณรู้เรื่องนั้นไหมครับ? เนื้องอก, ต้อกระจก ทุกสิ่งในสิ่งเหล่านี้เป็นพวกเซลล์ พวกมันไม่มีรูปร่างใดๆ บางส่วนของพวกมันกระจายออกไป และบางส่วนมีลักษณะคล้ายแมงมุมตัวหนึ่ง และบางส่วนวิ่งเป็นริ้วๆ โรคมะเร็งสีแดงคล้ายกับด้ายสีแดงเส้นยาวๆ ที่วิ่งผ่านไป และจากนั้นมีโรคมะเร็งกุหลาบซึ่งโดยปกติมักเกิดขึ้นที่เต้านมของผู้หญิง เหมือนพวกแพนเค้กซึ่งวางอยู่บนอีกอันหนึ่ง จากนั้นพวกมันก็แพร่กระจายออกไป และพวกมันก็เติบโตได้ทุกแห่ง

บางครั้งพวกเนื้องอกมีความไม่สมดุลย์แบบนี้ เป็นยาวๆ, รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า และทุกสิ่งทุกอย่าง พวกมันไม่มีรูปร่าง เพราะพวกมันกำลังตามวิญญาณที่ไม่มีรูปร่าง แต่มันกำลังพัฒนาเซลล์ทั้งหลาย มันเป็นกลุ่มของเซลล์ทั้งหลายซึ่ง.... บอกในตัวคุณ ณ ตอนนี้ เป็นเนื้องอก หรือโรคมะเร็ง มันกำลังพัฒนาพวกเซลล์อยู่ กำลังเติบโต, เติบโต, เติบโต, มันกำลังกิน, มันกำลังดูดชีวิตของคุณจากคุณ, อาศัยอยู่ในกระแสโลหิต พวกต้อกระจกใช้เมือกของดวงตาและเติบโตตรงขึ้นไป ปกคลุมตัวของมันเอง ทำให้ดวงตาของคุณปิดลง พวกมันบางตัวมาและไม่เคยได้.... เช่นเดียวกับวัณโรคซึ่งมาในเชื้อโรคเพียงเชื้อหนึ่ง ไม่มีอะไรเกี่ยวกับขนาดของมัน เชื้อโรคขนาดเดียวกันสร้างช้างได้หนึ่งตัว สร้างแมลงได้หนึ่งตัว ไม่มีอะไรเกี่ยวกับขนาดของเชื้อโรค

และบางส่วนของพวกมันมีรูปร่างบางอย่าง บางส่วนไม่เคยมี และบางส่วนไม่เคยเข้าไปในพวกเซลล์ บางส่วนกลายเป็นวิญญาณ ทรมานจิตวิญญาณ พวกเราจะพยายามไปยังส่วนนั้น (ผมจะทิ้งส่วนนั้นไว้ในตอนบ่ายวันพรุ่งนี้ถ้าหากผมสามารถทำได้ครับ) แหล่งที่มาของวิญญาณ-จิตวิญญาณ และมันลงมาภายใต้ที่นี่ได้อย่างไร....

ตอนนี้เพื่อนๆ ครับ ผมไม่ได้บอกเรื่องนี้จากจิตวิทยาบางประเภท ผมได้รับมือกับพวกปีศาจมาหลายปีแล้ว และคุณรู้เรื่องนั้นไหมครับ ถ้าหากคุณเพียงรู้สิ่งนั้นเท่านั้น หลังจากที่การประชุมต่างๆ สิ้นสุดลงในเวลากลางคืน สิ่งที่เกิดขึ้นในบางครั้ง คุณไม่รู้ จำได้ไหมครับว่า เมื่อคุณต่อต้านกับวิญญาณๆ หนึ่ง คุณควรจะรู้จักสิ่งที่คุณกำลังพูดถึงอยู่ จงอย่ายืนอยู่ที่นั่นและดำเนินต่อไปเพราะว่ามันไม่ได้ทำอะไรให้ดีได้ แต่เมื่อจริงๆ แล้วปีศาจต้องเชื่อฟังคุณ คุณจะรับรู้มันได้ มันไม่ใช่เสียงที่คุณตะโกนดังมากแค่ไหน มันไม่ใช่น้ำมันที่คุณใส่มากเท่าไหร่ มันเป็นสิ่งที่กลับมาที่นี่ซึ่งมันจะรับรู้ได้ ความจริง พระเยซูตรัสกับมันว่า "จงออกไป" เห็นไหมครับ?

จำได้ไหมครับ เหล่าสาวกได้ทำการเตะและการบิด และความพยายามที่จะขับมันออกไปและทุกสิ่งทุกอย่าง พวกเขากล่าวว่า "เหตุไฉนพวกเราจึงขับมันออกไปไม่ได้?"

ตรัสว่า "เพราะความไม่เชื่อของท่านทั้งหลาย" ตรัสว่า "จงออกไปจากเขา" เด็กชายคนนั้นล้มลงและมีอาการทรมานมากที่สุดที่เขาเคยมี เห็นไหมครับ พวกมันรับรู้สิทธิอำนาจ

มองดูที่พวกเด็กผู้ชายเหล่านั้นที่นั่น พวกผู้พเนจรเหล่านั้นซึ่งเห็นเปาโลขับผีออก พวกเขากล่าวว่า "พวกเราสามารถทำสิ่งเดียวกันได้" (พวกลูกชายของปุโรหิตบางคน) ดังนั้นพวกเขาจึงลงไปและบอกว่า "พวกเราสามารถขับผีออกได้" กิจการ บทที่ 19 พวกเขาลงไปยังผู้ชายคนหนึ่งที่มีโรคลมชักพอดี และบอกว่า "พวกเราสั่งเจ้าโดยพระเยซู ออกไปจากเขา"  ปีศาจได้กล่าว ... "บัดนี้ในพระนามของพระเยซูซึ่งเปาโลได้ประกาศนั้น"

วิญญาณชั่วกล่าวว่า "ตอนนี้ พระเยซู ข้าก็รู้จัก และเปาโล ข้าก็รู้จัก แต่พวกเจ้าเป็นผู้ใดเล่า?" คุณรู้ไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้น คนที่มีวิญญาณชั่วสิงอยู่จึงกระโดดใส่คนเหล่านั้น ฉีกเสื้อผ้าของพวกเขาออก และพวกเขาต้องหนีออกไปและวิ่งออกไปที่ถนน

พวกปีศาจพวกเดียวกันมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน ดังนั้นจึงมีความบ้าคลั่งมากมาย นี่คือการหลอกลวงคริสตจักร ปัจจุบันมีความบ้าคลั่งมากมายในดินแดนนี้ซึ่งเรียกว่า การรักษาด้วยความศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งน่าจะเงียบเสีย นั่นคือสิ่งที่ทำให้เกิดการตำหนิตามสาเหตุที่แท้จริง นั่นเป็นเหตุผลที่คุณมีความกระเสือกกระสนอย่างยากลำบาก มีสิ่งต่างๆ มากมายที่เรียกว่าศาสนาในปัจจุบันนี้ซึ่งน่าจะเงียบเสีย ไม่มีอะไรนอกจากพวกลัทธิ! นั่นคือสิ่งที่ทำให้คริสตจักรที่แท้จริงของพระเจ้ามีความกระเสือกกระสนอย่างยากลำบากเช่นนั้นกับมัน แต่พวกเราอยู่อเมริกา และนั่นเป็นวิถีทางที่มันจะเป็น พระเจ้าตรัสว่า ข้าวสาลีและพวกไม้เลื้อยและพวกไม้หนามเติบโตด้วยกัน อย่าพยายามดึงพวกมันออกไป ปล่อยให้พวกมันเติบโตไปด้วยกัน แต่โดยผลของพวกเขาคุณจะรู้จักพวกเขา ไม่มีผลเพราะไม่มีชีวิต ไม่มีอะไรที่นั่น

ตอนนี้ให้จับตาดูเซลล์ๆ นี้ สมมติว่า เช่น เหมือนเวลาส่วนมากที่โรคมะเร็งสีแดงมักพบในมดลูกของผู้หญิง พวกรอยฟกช้ำของผู้หญิงและอื่นๆ ตอนนี้ให้นำคนๆ นี้ลงไปตอนนี้ที่เซลล์มะเร็งของเขา-โรคมะเร็งนี้ ตอนนี้โรคมะเร็ง ....

            ทุกสิ่งทุกอย่างตามแบบอย่างทั้งหลายของฝ่ายธรรมชาติและฝ่ายวิญญาณ คุณรู้เรื่องนั้นไหมครับ? ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นตามแบบอย่างทั้งหลายของฝ่ายธรรมชาติและฝ่ายวิญญาณก็ตาม

ตัวอย่างเช่น เหมือนเรื่องนี้ เมื่อพวกเราบังเกิดมาในพระกายของพระเยซูคริสต์ มีองค์ประกอบสามอย่างที่จะนำพวกเรามาสู่การบังเกิดของพวกเรา และนั่นคือองค์ประกอบสามอย่างที่ออกมาจากชีวิตของพระคริสต์เมื่อพระองค์ได้ทรงสิ้นพระชนม์ มีมาจากพระกายของพระองค์คือ น้ำ, โลหิต, พระวิญญาณ นั่นใช่ไหมครับ? องค์ประกอบสามอย่าง นั่นคือองค์ประกอบทั้งหลายที่พวกเราต้องผ่านไปเมื่อพวกเราบังเกิดใหม่: ความชอบธรรม, การชำระให้บริสุทธิ์, การบัพติศมาของพระวิญญาณบริสุทธิ์

ตอนนี้เรื่องนั้นทั้งหมดอาจจะเป็นได้ในการปฏิบัติครั้งเดียว แต่มันใช้.... นอกจากนั้นคุณอาจจะอยู่ในขั้นตอนความชอบธรรมได้โดยไม่ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ คุณอาจจะเชื่อในพระเยซูคริสต์เจ้าได้และยังคงดำเนินการสิ่งสกปรกโสมมของคุณกับคุณ นอกจากนั้นคุณอาจจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างแน่นอนทั้งการได้รับความชอบธรรม และได้รับการชำระให้สะอาด ชีวิตที่บริสุทธิ์ และปราศจากพระวิญญาณบริสุทธิ์

เห็นไหมครับ พระคัมภีร์ไบเบิล (1 ยอห์น 5: 7) กล่าวว่า "เพราะมีพยานอยู่สามพยานในสวรรค์ คือพระบิดา, พระวาทะ และพระวิญญาณบริสุทธิ์ และพยานทั้งสามนี้เป็นองค์เดียวกัน" (ซึ่งเป็นพระบุตร) "มีพยานอยู่สามพยานในแผ่นดินโลก คือพระวิญญาณ น้ำ และพระโลหิต และพยานทั้งสามนี้สอดคล้องกัน" ไม่ใช่อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่สอดคล้องกันเป็นหนึ่ง คุณมิอาจจะมีพระบิดาได้โดยไม่มีพระบุตร คุณมิอาจจะมีพระบุตรได้โดยไม่มีพระวิญญาณบริสุทธิ์ เพราะทั้งหมดแยกจากกันไม่ได้: เป็นหนึ่ง ตรีเอกานุภาพเป็นในองค์เดียวกัน

ผมไม่ได้ฟังเรื่องนี้รอบๆ ที่นี่ แต่คุณได้ฟังมันมากทั่วประเทศ: สิ่งหนึ่งของพวกสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในพวกกลุ่มเพ็นเทคอสต์คือ การผสมปนเปในสิ่งที่ง่ายๆ อย่างหนึ่งนั้นขึ้นมา และผมก็มีพวกหัวหน้าของพวกเขามารวมกันและพิสูจน์ให้พวกเขาทั้งสองเห็นว่าพวกเขาเชื่อในสิ่งเดียวกัน มันเป็นวิญญาณชั่วระหว่างพวกเขา นั่นแหล่ะครับ ถ้าหากคริสตจักรเพ็นเทคอสต์ใหญ่นั้นจะโยนพวกประเพณีเก่าแก่เล็กๆ น้อยๆ และรวมตัวของพวกเขาเองเข้าด้วยกันในคริสตจักรที่ได้รับพระพรแห่งหนึ่งของพระเจ้า การรับขึ้นไปจะมาถึง แต่ตราบเท่าที่ซาตานสามารถทำให้พวกคุณแตกแยกกันได้ ไม่เป็นไรครับ นั่นคือวิธีการของมันที่กำลังทำเรื่องนั้น และพวกเขาเชื่อสิ่งเดียวกันอย่างแน่นอน คนหนึ่งบอกว่า "ดีล่ะ สิ่งนี้เป็นแบบนั้น"

ผมบอกว่า "ดีล่ะครับ ถ้าหากสิ่งนี้เป็นแบบนั้น แล้วสิ่งนั้นเป็นแบบนี้" ดังนั้นพวกคุณจึงเป็น ดังนั้นทุกอย่างเหมือนกันหมด แต่มีคุณอยู่ในพระเจ้าสามพระองค์นั้น ตรีเอกานุภาพของพระเจ้า ตอนนี้พระเจ้าทรงอยู่ในเอกภาพของพระองค์: พระเจ้าพระบิดา, พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ ตอนนี้พวกเราไม่ได้พูดว่า "พระเจ้าทั้งหลายของพวกเรา" เหมือนพวกนอกศาสนา แต่เป็น "พระเจ้าของพวกเรา" ดูเถิดครับ มันเป็นความเป็นสามสถานะของพระเจ้า

ทีนี้สังเกตไหมครับตอนนี้ ซาตานอยู่ในตรีเอกานุภาพด้วยเช่นกัน และอำนาจทั้งหลายของมันอยู่ในตรีเอกานุภาพ

ตอนนี้ แต่สังเกตเห็นไหมครับ จากนั้น น้ำ, พระโลหิต และพระวิญญาณ ก่อให้เกิดการบังเกิดใหม่ นั่นใช่ไหมครับ? ตอนนี้ให้จับตาดู นั่นคือสิ่งที่แสดงถึงการบังเกิดใหม่ สิ่งที่แสดงให้เห็นถึงการบังเกิดตามฝ่ายธรรมชาติก่อนการบังเกิดใหม่มาถึง ทำไมพวกคุณแม่? เมื่อทารกบังเกิดมา สิ่งแรกคืออะไร? น้ำ ต่อไป? โลหิต ต่อไป เห็นไหมครับ นั่นทำให้ชีวิตเกิดมา เห็นไหมครับ ทำให้เป็นบุคคล น้ำ, โลหิต, วิญญาณ

ตอนนี้โรคมะเร็ง ให้พวกเรามาจัดการเรื่องนี้สำหรับพวกเราต่อไป.... พวกเรามีเวลาเหลืออยู่ประมาณห้านาที ผมคิด ประมาณห้านาทีต่อไปนี้ ให้พวกเรามาจัดการกับโรคมะเร็ง ตัวนั้นคืออะไร? มันเป็นตัวอย่างของอะไร? มันเป็นสัตว์ที่กินของเน่า มันเป็นตัวอย่างของอีแร้ง กินพวกสิ่งที่ตายแล้ว และโรคมะเร็งส่วนใหญ่มาจากแผลฟกช้ำ สถานที่ซึ่งเซลล์ได้รับการตีและมันแตกขึ้นมา และเซลล์เล็กๆ เซลล์หนึ่งในที่นั่นกลายเป็นหันหลังกลับ โอ้ นั่นเป็นคำที่ใหญ่สำหรับแบ๊บติสต์ มิใช่หรือครับ? ตกลงครับ แต่มันหันหลังกลับ-เซลล์นั้น ผมเป็นแบ๊บติสต์ที่ในการหันหลังกลับ

คนบางคนได้บอกลงไปที่นี่ในการประชุมที่เมืองอาร์คันซอในวันก่อน บอกว่า “บราเดอร์บรานฮาม” บอกว่า.... มันเป็นคน (นาซารีน) ที่ได้รับการเยียวยารักษาโรค เขามี... ของเขาด้วยการเดินไปทั่วเมืองด้วยพวกไม้ค้ำของเขาบนไหล่ของเขา เขาบอกว่า “ท่านรู้อะไรไหม?” บอกว่า “ครั้งแรกตอนที่ผมมาที่นี่” บอกว่า “ผมฟังท่านเทศนา ผมคิดว่าท่านเป็นนาซารีน” เขาบอกว่า “จากนั้นผมได้เห็นว่าคนทั้งหลายส่วนใหญ่เป็นเพ็นเทคอสต์ และคนบางคนบอกผมว่า ท่านเป็นเพ็นเทคอสต์ ตอนนี้ท่านบอกว่าท่านเป็นแบ๊บติสต์” บอกว่า “ผมไม่เข้าใจเรื่องนี้”

ผมบอกว่า “โอ้ นั่นง่ายครับ” ผมบอกว่า “ผมเป็นเพ็นเทคอสต์ นาซารีน แบ๊บติสต์” นั่นใช่ครับ ตกลงครับ ไม่ใช่ครับ พวกเราเป็นหนึ่งในพระเยซูคริสต์โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงกระทำให้พวกเราเป็นหนึ่ง นั่นใช่ครับ

ตอนนี้สังเกตไหมครับ เซลล์ที่หันหลังกลับเล็กๆ เซลล์นี้เมื่อมันฟกช้ำ แล้ว มันเริ่ม.... เชื้อโรคเล็กๆ อื่นๆ วิ่งล่วงหน้าไปเพื่อจะให้มัน ... วางอยู่ในที่นั่น และนั่นคือตุ่มที่เป็นหนองข้างใน นั่นเป็นพวกทหารเล็กๆ ที่ต่อสู้เพื่อชีวิตของคุณ พวกมันวิ่งขึ้นไปที่นั่นเพื่อจะปะทะกับพิษนั้น-พวกมันอำนาจปีศาจที่พยายามจะรวบรวมในที่นั่น-และให้ชีวิตของพวกมัน นั่นคือสิ่งที่ ... นั่นคือกลุ่มของพวกทหารเล็กๆ ที่ตายแล้ว-ตุ่มนั้นที่อยู่ในเลือดของคุณ มันอยู่ในหนอง ที่ให้ชีวิตของพวกมันเพื่อจะช่วยให้คุณรอด

ตอนนี้เมื่อเซลล์เล็กๆ เซลล์หนึ่งปฏิเสธในที่นั่นและปีศาจตนนี้ได้เริ่มต้น มันเริ่มเติบโต มันเริ่มจะทวีคูณเซลล์ต่างๆ มันกำลังสร้างร่างกายหนึ่งเหมือนพวกเด็กทารกของคุณจริงๆ ซึ่งเริ่มต้นในครรภ์ของคุณ และเหมือนที่คุณได้ทำในคุณแม่ของคุณ: เซลล์ด้านบนของเซลล์ เซลล์ด้านบนของเซลล์ เซลล์ ... ทุกวิถีทาง ทุกแห่ง เพียงแค่.... พวกมันไม่มีรูปร่างของสิ่งใดเหมือนมนุษย์ตามธรรมชาติของมัน มันเพียงแค่ออกจากวิญญาณ มันแค่เติบโตทุกวิถีทาง และมันเริ่มเซลล์ด้านบนของเซลล์ เซลล์ด้านบนของเซลล์

และตอนนี้สิ่งแรกคุณรู้ไหมครับ คุณเริ่มจะอ่อนแอและรู้สึกเจ็บป่วย คุณไปพบแพทย์และเขาจะตรวจสอบคุณ  บางทีเขามิอาจจะค้นหามันได้ ถ้าหากเขาค้นหามันได้ บางทีเขาจะตัดมัน ถ้าหากเขาสามารถตัดมันได้หมดจริงๆ ไม่เป็นไรครับ เขาทำมันได้ แต่ถ้าหากเขาไม่สามารถตัดมันได้หมดจริงๆ จากนั้น (ถ้าหากมันอยู่ในลำคอหรือบางแห่งสถานที่ซึ่งไม่สามารถตัดมันได้หมดจริงๆ) จุดเล็กๆ จุดหนึ่งของมันจะมีชีวิตอยู่ต่อไป เห็นไหมครับ เพราะมันไม่เหมือนที่คุณจะตัดมือของคุณออกและทำให้มันจบเรื่องได้ หรือสิ่งใด หรือคุณตัด.... ออก สิ่งที่ผมหมายถึงคือ ถ้าหากคุณต้องการตัดร่างกายส่วนหลักออก และปล่อยมือของคุณไว้ที่นั่น เพราะฉะนั้นมันจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้ แต่เห็นไหมครับ นั่นไม่มีรูปร่างของชีวิตเหมือนอย่างที่คุณมี มันเป็นการเคลื่อนไหวของอำนาจของปีศาจ

และตอนนี้สังเกตไหมครับ คุณเรียกพวกมัน.... แพทย์เรียกมันว่า “โรคมะเร็ง” พระเจ้าทรงเรียกมันว่า “วิญญาณชั่ว” ให้มองดูที่วันนี้ พวกเขาเพียงแค่ให้มัน.... คำว่าโรคมะเร็งมาจากที่ไหน? มันมาจากคำภาษาละตินซึ่งใช้ในศัพท์ทางการแพทย์หมายถึง “ปู” ปูซึ่งคุณอาจจะเห็นตามชายหาดที่พวกมันทุกตัวมีขาหลายขา นั่นคือวิธีที่มันเป็น-มันออกไปถึง แพร่ขยายออกไป คำว่าโรคมะเร็งคือ  “ปู” และมันเข้าไปในและยึดไว้ต่อไปและดูดเลือดขณะที่มันไป เหมือนปลาหมึกหรือบางสิ่งบางอย่าง

เหตุเพราะ เนื้องอก, ต้อกระจก และโรคร้ายอื่นๆ ทุกสิ่งทุกอย่างของพวกมันมาจากเชื้อโรคเชื้อหนึ่ง และเชื้อโรคนั้นต้องเป็นร่างกายๆ หนึ่ง และก่อนที่มันจะเป็นร่างกายได้ มันต้องมีชีวิต ก่อนที่มันจะสามารถสร้างหรือมีเชื้อและทำให้พวกเซลล์มากขึ้นได้ มันต้องมีชีวิต นั่นถูกต้องไหมครับ?

ตอนนี้โรคมะเร็งนั้นมาจากที่ใด? โรคนั้นมาจากที่ใด? มันไม่ได้อยู่กับคุณที่นี่บางเวลาที่ผ่านมา แต่ตอนนี้อาจจะอยู่ มันอยู่บนคุณ มันมาจากที่ไหน? มันเป็นอีกชีวิตหนึ่งที่แตกต่างจากชีวิตของคุณที่อาศัยอยู่ในตัวคุณ และมันก็กำลังทรมานอยู่ กำลังบั่นทอนชีวิตของคุณ นั่นเป็นเหตุผลที่พระเยซูทรงเรียกมันว่า “ผี”

ปัจจุบันนี้พวกเขาเรียกโรคลมชัก พวกเขาบอกว่า “โรคลมชัก” เหตุไฉนโรคลมชักในพระคัมภีร์ไบเบิล พระเยซูทรงเรียกมันว่า “ผี” เมื่อชายคนนั้นมาพร้อมกับเด็กที่ล้มอยู่บนพื้นดิน น้ำลายฟูมปาก และทุกสิ่งทุกอย่าง เขากล่าวว่า “เขามีผี และทำให้เด็กตกไปในไฟและในน้ำบ่อยๆ ”

ตอนนี้พวกเขาได้ขัดเงาชื่อของมันขึ้นมาและเรียกมันว่า “โรคลมชัก” แต่มันเป็นผี และพระเยซูตรัสว่า “เจ้ามารร้ายจงออกไปจากเด็ก!” แน่นอนครับ ตอนนี้โรคลมชักมักจะเกิดจากปัญหาไต บางทีคุณอาจจะได้เข้าไปในเรื่องนั้นบ้างหลังจากนี้ ดูเถิดครับ มันทำให้เกิดโรคลมชัก มียูเรียสูงมาก

ตอนนี้สังเกตไหมครับ ในเรื่องนี้จากนั้นเซลล์ๆ นั้นนั่งอยู่ที่นั่น มันเป็นผี มันกำลังสร้างชีวิต มันกำลังเติบโต กลายเป็นใหญ่ขึ้นและใหญ่ขึ้น มันมีหน้าที่หนึ่งที่จะทำ-นั่นคือนำชีวิตของคุณไป นั่นคือสิ่งที่ผีได้ใช้มันมา เพื่อจะตัดวันทั้งหลายของคุณให้สั้นขึ้นสิบปีเหลือหกสิบปี

ตอนนี้ผมขอคารวะแพทย์ทุกท่าน ใช่ครับท่าน วิทยาศาสตร์การแพทย์ทุกแขนง พระเจ้าอวยพรพวกเขาสำหรับความช่วยเหลือที่พวกเขาได้ทำเพื่อผู้คน นั่นคืออย่างถูกต้อง คุณจะทำอะไรในโลกวันนี้โดยปราศจากมันได้เล่าครับ? ผมขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับวิทยาศาสตร์การแพทย์ ผมขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับรถยนต์ของผม ถ้าหากพระเจ้ามิได้ทรงอนุญาตให้วิทยาศาสตร์ทำให้ผมมีรถยนต์ ผมก็จะมีเวลาที่ยากลำบากในการเดินขึ้นมาที่นี่ สำหรับแสงสว่างไฟฟ้า และสำหรับสบู่ล้างมือที่ล้างมือของผม และยาสีฟันที่ขัดฟันของผม แน่นอนครับ ผมขอบพระคุณพระองค์สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างเพราะสิ่งอันดีทั้งหลายทุกสิ่งมาจากพระเจ้า

แต่ให้ผมบอกคุณ: ไม่มีจุดหนึ่งของยาที่เคยได้รักษาความเจ็บป่วยใดๆ ได้ และไม่มีแพทย์คนหนึ่ง (ไม่เว้นแต่เขาที่เป็นหมอเถื่อนบางคน) .... แต่แพทย์แท้ๆ จะบอกคุณไม่ได้อ้างว่า พวกเขาเป็นพวกผู้เยียวยารักษาโรค ตรงที่เมโย พี่น้องครับ หลายท่าน.... ผมได้รับการสัมภาษณ์ที่นั่นสองหรือสามครั้ง พวกผู้ป่วยที่มาจากที่นั่นที่รักษาไม่หาย ....

คุณอ่านรีดเดอร์สไดเจสท์ฉบับเดือนพฤศจิกายนไหมครับ? มีกี่คนอ่านฉบับเดือนพฤศจิกายน บทความนั้นของผมอยู่ที่นั่นในรีดเดอร์สไดเจสท์? เห็นไหมครับ? และพวกเขามีผมขึ้นที่นั่นในการสัมภาษณ์.... เด็กทารกที่พวกเขาหมดหวังแล้ว บอกว่ามันมิอาจจะทำได้ แต่พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ตรัสกับผมและได้ทรงบอกผมว่า มันจะทำได้อย่างไร และมันก็ทำได้ ตกลงครับ ตอนนี้พวกเขาเรียกผมขึ้นไปที่นั่น และขึ้นไปเหนือประตูที่จิมมี่และพวกเขา... “เมโย” เคยเป็น มีป้ายขนาดใหญ่มากเขียนว่า “พวกเรามิได้ปฏิญาณตนว่าเป็นพวกผู้เยียวยารักษาโรค พวกเราเพียงปฏิญาณตนว่าจะช่วยธรรมชาติ มีอยู่พระองค์หนึ่งซึ่งทรงเป็นผู้ทรงเยียวยารักษาโรคได้นั่นคือ พระเจ้า” พวกเขาดีที่สุดในโลก ตอนนี้พวกเรามีพวกหมอเถื่อนไม่กี่คน ใช่ครับ นั่นถูกต้องครับ พวกเรามีพวกนักเทศน์เถื่อนด้วยเช่นกัน ตกลงครับ เพื่อที่จะไปทั้งสองด้าน

สังเกตไหมครับ แต่ผู้ใดที่อ้างว่าเขาเป็นผู้เยียวยารักษาโรค เขาก็เป็นนักเล่าเรื่อง เพราะเขาไม่สามารถทำมันได้ เพราะพระคัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่า “เราเป็นพระเจ้า ผู้อภัยความชั่วช้าทั้งสิ้นของท่าน ผู้รักษาโรคทั้งสิ้นของท่าน”

ผมเคยทำการศึกษา และในห้องของผม แพทย์บางท่านที่ดีที่สุดของแพทย์ทั่วประเทศได้มา คุณหารู้ไม่ว่าเบื้องหลังของชีวิต เพื่อนเอ๋ย ที่จะรู้ว่าสิ่งที่เคย.... และสิ่งทั้งหลายที่ผมไม่ได้บอกในที่สาธารณะ; ผู้คนแอบมาอย่างลับๆ คุณไม่คิดใช่ไหมครับว่า จะยังไม่มีพวกนิโคเดมัสมากมายในโลกนี้ แน่นอนคือมีพวกเขาหลายพันคน พวกเขามองบนเรื่องนั้นและมาในการประชุม นั่งอยู่ตรงนั้นสวมเสื้อยืด (บางสิ่งบางอย่างอื่นๆ เหมือนเช่นนั้น) กับพวกชื่อที่เงาวับที่คุณต้องประหลาดใจ นั่งอยู่ในที่ประชุม ในไม่กี่วันเลื่อนไปรอบๆ และโทรเข้ามาอย่างลับๆ และส่งคนบางคนมาในการสัมภาษณ์ และพูดตรงๆ ออกมาบอกว่า “บราเดอร์บรานฮาม ผมเชื่อว่าเรื่องนั้นเป็นความจริง” พวกเขาเป็นมนุษย์เหมือนกันกับที่พวกเราเป็น แน่นอน และความปรารถนาของมนุษย์ทุกคน .... และพวกเขามองไปยังที่ม่านอันมืดโน้นที่เขาต้องผ่านไปได้สักวันหนึ่ง

แต่การเกิดโรคมะเร็งพวกมันและสิ่งทั้งหลายเป็นพวกวิญญาณชั่วที่ได้ก่อรูปร่างเกิดขึ้นในร่างกายของเนื้อหนัง, เคลื่อนไหวขึ้นไป, กำลังคร่าชีวิตของคุณไป

ตอนนี้ถ้าหากผมจะทำเหมือนอย่างแพทย์-ถ้าหากผมจะตัดมันออกไปวางไว้บนพื้นดิน.... หรือเช่นเดียวกับการพูด เช่น คุณเป็นโรคมะเร็งด้วยตัวของคุณเองบนแผ่นดินโลกนี้ เวลานี้ที่นี่การเยียวยารักษาโรคของพระเจ้า ถ้าหากผมอยากจะกำจัดคุณ (ในทางของวิธีการทางการแพทย์) ผมคงจะต้องเพียงแค่ถูร่างกายของคุณหรือสิ่งอื่นจนกระทั่งมันทั้งหมดหายไปจากแผ่นดินโลกนี้ จะไม่มีมันอีกต่อไป เช่นเดียวกับที่แพทย์จะใช้การเติบโตจากคุณ แต่ในรูปแบบของการเยียวยารักษาโรคของพระเจ้า ถ้าหากคุณเป็นโรคมะเร็ง ผมก็เพียงแค่เรียกชีวิตของคุณออกจากคุณและคุณจะดำเนินต่อไป ชีวิตของคุณจะทิ้งคุณไป แต่ร่างกายของคุณจะอยู่ที่นี่เหมือนกับที่มันเคยเป็น

ขณะนี้มีสถานที่ซึ่งการมองเห็นและเวลาซึ่งเป็นศัตรูที่เลวร้ายของพระเจ้าในการเยียวยารักษาโรคของพระเจ้า ผมไม่ทราบครับว่า บราเดอร์แบ็กซ์เตอร์เคยได้รับสิ่งเหล่านี้ในการประชุมหรือไม่ ผมนั่งลงอธิบายเรื่องนี้กับเขาและบราเดอร์บอสเวิร์ธซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ผมสงสัยว่าหลายคนที่ได้รับมันเพราะหลังจากสักพักหนึ่งคุณเริ่มจะพบว่าคนทั้งหลายกลับมาบอกว่า “ผมได้รับการเยียวยารักษาโรคของผม บราเดอร์บรานฮาม สำหรับสองหรือสามวัน แต่มันเป็นแบบ ... มันทิ้งผมไป” ผมพบมัน ... ผมคิดว่ามันเป็นเพราะพวกเขาไม่ได้จัดการประชุมอย่างถูกต้อง ผู้คนจึงไม่เข้าใจ

ผมเคยมีหลายคนมาถึงเวทีและตาบอดโดยสิ้นเชิง (การเกิดโรคมะเร็งหรือโรคต้อกระจกบนตาของพวกเขา) และอ่านพระคัมภีร์ไบเบิลนี้หลังจากที่ได้รับการอธิษฐานเผื่อ เดินลงไป ในสามหรือสี่วันเป็นเช่นเดียวกับคนตาบอดที่พวกเขาเป็นในตอนแรก เกิดอะไรขึ้นเล่าครับ? มีใครรู้ไหมครับว่า เมื่อชีวิตได้ออกไปจากเนื้อหนังใดๆ แล้ว มันหดตัวลงสักพักหนึ่ง นั่นใช่ไหมครับ?

มีใครที่นี่ที่เคยฆ่ากวางหรือวัวหรืออะไรเหมือนอย่างนั้น? แน่นอน ตกลงครับ คุณชั่งน้ำหนักมันคืนนี้ คุณล่าสัตว์ออกไปจากที่นี่ เพื่อนๆ ของผม คุณฆ่ากวางและคุณโยนมันบนตาชั่ง บอกเด็กๆ ว่ามันมีน้ำหนักเท่าไหร่ ระวัง! ในตอนเช้ามันจะเบากว่าสิ่งที่มันเคยเป็นหลายปอนด์

เมื่อมนุษย์ตาย สิ่งแรกสัปเหร่อจะถอดฟันปลอมหรือตาออก สิ่งใดก็ตามที่มันอยู่ในที่นั่น ถอดมันออกไป เพราะมันหดตัว มันจะถลนออกมา เพราะร่างกายมนุษย์หดตัว เนื้อหนังอื่นๆ ทุกส่วนหดตัว เมื่อชีวิตออกไปจากเซลล์ มันเริ่มที่จะเคลื่อนลงไปและหดตัว มันจะทำอย่างนั้นประมาณเจ็ดสิบสองชั่วโมง และจากนั้นมันจะเริ่มบวม

ให้สุนัขตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งวิ่งออกจากที่นี่ไปอยู่บนท้องถนน ให้มันนอนอยู่ที่นั่นในดวงอาทิตย์ประมาณสามวัน และให้จับตาดูสิ่งที่เกิดขึ้น มันเป็นสุนัขที่มีขนาดใหญ่กว่าที่มันเคยเป็น มันบวมขึ้น นั่นใช่ไหมครับ?

ดีล่ะครับ นั่นเป็นสิ่งเดียวกันที่เกิดขึ้นเมื่อผีถูกขับออกมาจากคนที่เจ็บป่วย สองสามวันแรก: “โอ้ ผมรู้สึกอัศจรรย์” จากนั้นเริ่มจะบอกว่า “ผมเจ็บป่วยกว่าที่ผมเคยเป็น ผมได้สูญเสียการเยียวยารักษาโรคของผม” เช่นเดียวกับความเชื่อที่ถูกนำออกไป ความไม่เชื่อนำมันกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ในฐานะที่ความเชื่อสังหารมันได้ ความไม่เชื่อก็ทำให้มันฟื้นคืนชีพได้ พระเยซูตรัสว่า “เมื่อผีโสโครกหายไปจากคนที่เขาเดินอยู่ในสถานที่แห้งและเขากลับมาพร้อมกับเจ็ดภูตผีอื่นๆ   เมื่อผีโสโครกออกมาจากผู้ใดแล้ว มันก็ท่องเที่ยวไปในที่กันดาร และมันกลับมากับผีอื่นอีกเจ็ดผี” และถ้าหากคนดีของบ้านที่ไม่ได้ยืนอยู่ที่นั่นเพื่อปกป้องประตูนั้น มันจะตรงเข้ามาข้างใน และคนดีของบ้านของคุณคือ ความเชื่อของคุณ กล่าวว่า “จงถอยไป!” นั่นแหล่ะครับ

แต่ตอนนี้ให้คุณจับตาดูผู้ป่วยคนหนึ่งซึ่งหายโรคแล้ว สิ่งธรรมดา...  เว้นแต่ว่ามันเป็นการอัศจรรย์อันโดดเด่น ซึ่งการเยียวยารักษาโรคของพระเจ้าและการอัศจรรย์เป็นสองสิ่งที่แตกต่างกัน การเยียวยารักษาโรคของพระเจ้าเป็นสิ่งหนึ่งและการอัศจรรย์เป็นอีกสิ่งหนึ่ง แต่กระนั้นสิ่งธรรมดากระทำการเยียวยารักษาโรคของพระเจ้า เมื่อผีโสโครกถูกขับออกไป-ปีศาจโรคมะเร็ง เมื่อมันออกไปจากคนๆ นั้น โอ้! หรือกล่าวได้ว่า พวกเราจะใช้บางสิ่งบางอย่างเพื่อให้คุณสามารถมองเห็นภาพมากขึ้น ผมจะบอกต้อกระจก เกิดอะไรขึ้นเมื่อชายคนนั้น .... ถ้าหากคุณจะสังเกตเห็นคนตาบอด (ผมไม่ทราบว่าผมเคยมีท่านใดที่นี่หรือยังไม่มีครับ) ตาต้อกระจก ผมจะให้พวกเขายืนสองสามนาที ทำไมเล่าครับ? ดังนั้นการหดตัวเริ่มจะเกิดขึ้น บอกพวกเขาเพื่อจะกลับมาให้คำพยานแก่พวกเรา โอ้ พวกเขาสามารถมองเห็นได้ อัศจรรย์! "โอ้! เพียง .... ผมสามารถมองเห็นสิ่งทั้งหลายได้! ใช่ครับ ผม....” เรื่องอะไร? ชีวิตหายไป; ร่างกายของต้อกระจกกำลังหดตัว

ดีล่ะครับ มันจะทำแบบนั้นสองสามวัน บอกว่า “โอ้ ผมกำลังหายดีขึ้นมาก”

และหลังจากสักพักหนึ่ง พวกเขาเริ่มที่จะปวดศีรษะ รู้สึกไม่ดีอย่างมาก ตื่นขึ้นตอนเช้าวันรุ่งขึ้น “ผมกำลังสูญเสียการมองเห็นของผมอีกครั้งหนึ่ง”

พวกเขาบางคนบอกว่า “อ่ะ-อ่ะ เขาก็หายดีแล้ว กลุ่มพวกโฮลี่ โรลเลอร์กลุ่มนั้นทำให้คุณหายดีแล้ว” คุณอย่าเชื่อเรื่องนั้น! นั่นเป็นเรื่องโกหกของวิญญาณชั่ว ถ้าหากคุณเชื่อเรื่องนั้น คุณจะกลับไปตาบอดอีกครั้งหนึ่ง แต่ถ้าหากคุณเพียงจะยึดมั่น ทูลว่า “ไม่ พระบิดา ข้าพระองค์เชื่อ”

แล้วเกิดอะไรขึ้นเล่าครับ? ร่างกายนั้นบวมอยู่นานมาก มันปกคลุมการมองเห็นนั้นอีกครั้งหนึ่ง โรคมะเร็งนั้นในร่างกายนั้นจะบวม คุณจะกลายเป็นเจ็บและปวดอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นคุณจะเจ็บป่วยอย่างน่าสะพรึงกลัว เจ็บป่วยอย่างร้ายแร้ง ทำไมเล่าครับ? การเติบโตขนาดใหญ่ของเนื้อหนังที่ตายไปแล้วนั้นในตัวคุณกำลังนอนอยู่ที่นั่นตายแล้ว

คุณกลับไปพบแพทย์และเขาจะบอกว่า “โอ้ นั่นเรื่องไร้สาระ มีโรคมะเร็งอยู่ที่นั่น ผมสามารถเห็นมันได้” แน่นอนครับว่ามันมี แต่มันตายแล้ว ฮาเลลูยา!

ตอนนี้กระแสเลือดต้องชำระล้างร่างกายให้สะอาด เวลาปั๊มหัวใจทุกครั้ง มันพ่นเลือดไปรอบๆ ทั่วร่างกายและมันหยิบการติดเชื้อนั้นขึ้นมา แน่นอนครับว่า มันจะทำให้คุณป่วย เกิดอะไรขึ้นถ้าหากคุณมีก้อนเนื้อก้อนหนึ่งที่ลอยอยู่ในตัวคุณบางแห่ง หรือยาวเหมือนงู หรือบางสิ่งบางอย่างที่ใหญ่ประมาณนิ้วมือของคุณและลอยอยู่ในที่นั่น และมันตายแล้ว? เนื้อนั้นตายแล้วลอยอยู่ในคุณ และมันกำลังเน่า? ดีล่ะครับ แน่นอนกระแสเลือดของคุณต้องทำให้สิ่งนั้นสะอาด ในขณะที่มันปั๊มผ่านไป แต่มีศพ-สิ่งที่ลอยอยู่ที่นั่น-เพราะชีวิตจากมันไปแล้ว ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าโดยความเชื่อได้ขับมันออกไปแล้ว มันเป็นปีศาจ มันต้องออกไป

แต่เหตุผล.... คนทั้งหลายยังไม่ได้รับคำแนะนำ พวกเขาหายไป ยกเลิก และวิญญาณชั่วตนเดียวกันยืนอยู่ที่นั่นเพื่อจะเข้ามาสิงอีกครั้งหนึ่ง เมื่อพระเจ้าทรงบอกคุณทุกสิ่งทุกอย่างบนเวทีนี้ ผ่านทางพระวิญญาณของพระองค์ เมื่ออยู่ภายใต้แรงบันดาลใจ คุณจงอย่าสงสัยเรื่องนั้นมิเช่นนั้นแล้วสิ่งที่เลวร้ายจะมาเหนือคุณ พระองค์ทรงกล่าวไว้ พระเยซูตรัสว่า “มันจึงไปรับเอาผีอื่นอีกเจ็ดผีร้ายกว่ามันเอง แล้วก็เข้าไปอาศัยที่นั่น และในที่สุดคนนั้นก็ตกที่นั่งร้ายกว่าตอนแรก” นั่นใช่ไหมครับ? เมื่อผีโสโครกออกมาจากผู้ใดแล้ว มันก็ท่องเที่ยวไปในที่กันดาร กลับมากับผีอื่นอีกเจ็ดผี

ดังนั้นคุณจงอย่าปฏิเสธความเชื่อ! จงอยู่กับมัน ให้มันมีความหมายมาจากใจของคุณ บอกว่า “ไม่ครับท่าน! ผมจะไม่หวั่นไหว! ไม่ว่าผมจะป่วยเพียงใด นั่นไม่เกี่ยวข้องอะไรกับมัน” แล้วสิ่งแรกคุณรู้ไหมครับ คุณกำลังเป็น ... ได้รับการชำระขึ้นมาให้สะอาด แล้วทุกสิ่งทุกอย่างจะไม่เป็นไร เห็นไหมครับ มันตายแล้ว การผ่าตัดที่แพทย์อาจจะได้นำไปจากคุณ การเติบโตเช่นเดียวกันนั้นกำลังนอนอยู่ในตัวคุณ ด้วยไม่มีชีวิตในมัน

คุณบอกว่า “ชีวิตอยู่ในมัน บราเดอร์บรานฮาม มันจะคร่าชีวิตของผมไปไหม?” ไม่ครับท่าน ชีวิตนั้นเป็นชีวิตที่แยกต่างหากจากชีวิตของคุณ ผมเพียงแสดงให้คุณเห็นว่า คุณเป็นชีวิตหนึ่งและกลายเป็นสิ่งที่เป็นอยู่ และมันเป็นชีวิตและกลายเป็นสิ่งที่เป็นอยู่ และคุณเป็นของพระเจ้า และมันเป็นของวิญญาณชั่ว คุณเห็นไหมครับว่าผมหมายถึงอะไร? ปีศาจวิทยา ตอนนี้คุณน่าจะเห็นได้ว่า สิ่งนั้นเหมือนอะไรเมื่อคุณยืนและมองดูที่มัน

โอ้ ผมขออภัยครับ มันเกือบจะบ่ายสามโมงครึ่งแล้ว ผมขออภัย ให้ดูครับ เพื่อนๆ โอ้ สิ่งที่โลกนี้ต้องการ

ผมได้สอนทั่วอเมริกามาประมาณเจ็ดปีในการประชุมเยียวยารักษาโรคทั้งหลายเหล่านี้ ผมเพิ่งมีความคิดดีๆ ที่จะเริ่มกลับมาสอนพระคัมภีร์ไบเบิลทั่วประเทศเรื่องปีศาจวิทยา-วิธีการที่คนทั้งหลายจะสามารถเข้าใจถึงสิ่งที่จะทำ และนั่นคือเหตุผลที่พวกเขาไปยังการประชุมเหล่านี้หลายครั้งและคน.... ถ้าหากคุณไม่เข้าใจ คนทั้งหลายออกมาและหลายครั้ง ....

ตอนนี้จำได้ไหมครับ คนๆ นั้นที่มาและบอกว่าเขามีของประทานของการเยียวยารักษาโรคของพระเจ้า.... ของประทานการเยียวยารักษาโรคของพระเจ้าอยู่ในคุณ ถ้าหากคุณหายโรค มันเป็นคุณ คนๆ นั้น ของประทานทุกอย่างกระทำการโดยความเชื่อ และไม่ว่าของประทานของการเยียวยารักษาโรคของพระเจ้าที่ผมมีมากเพียงใด ผมเชื่อมันด้วยสุดจิตสุดใจของผม แต่คุณอาจจะยืนอยู่ที่นี่ได้ และถ้าหากคุณไม่ได้มีความเชื่อแบบเดียวกัน มันก็ไม่เป็นการดีอันใดแก่คุณ ผมอาจจะอธิษฐานเผื่อคุณเป็นชั่วโมงและเป็นสัปดาห์และเป็นเดือนได้ มันไม่ใช่พวกนักเทศน์กับการเยียวยารักษาโรคของพระเจ้า มันเป็นคุณที่มีของประทานของการเยียวยารักษาโรคของพระเจ้าซึ่งเชื่อในการหายโรค เพราะมันเป็นโดยความเชื่อ โดยความเชื่อ... การปฏิบัติการของพระเจ้าทุกอย่างเป็นโดยความเชื่อ

ยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้าเป็นโดยความเชื่อ พวกเราไม่ได้มีสิ่งธรรมชาติหนึ่งของโลกนี้ ทุกอย่างของคริสตจักรคริสเตียนคือ การกระทำโดยความเชื่อ มองดูที่ยุทธภัณฑ์ของพระเจ้า: ความรัก, ความชื่นชมยินดี, สันติสุข, ความอดกลั้น,  ความดี, ความอ่อนน้อมถ่อมตน, ความสุภาพ, ความอดทน นั่นใช่ไหมครับ? ทุกสิ่งที่เหนือธรรมชาติ; ไม่มีอะไรที่เป็นธรรมชาติ ดังนั้นพวกเราจงอย่ามองดูสิ่งฝ่ายธรรมชาติ เพราะพวกเรากำลังทำการเหนือธรรมชาติ

และวิธีการเดียวเท่านั้นที่พวกเราสามารถวางรากฐานได้มันเป็นความเชื่อที่อยู่ในสิ่งที่พระเจ้าบอกว่าเป็นความจริง และพวกเรามองไม่เห็น และพวกเราเรียกสิ่งเหล่านั้นที่ไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่พวกมันเคยเป็น เหมือนอย่างที่อับราฮัมได้ทำ อาเมน! อับราฮัมได้เรียกสิ่งเหล่านั้นซึ่งไม่ได้เป็น (เหมือนพระเจ้าได้ทรงกระทำ) ราวกับว่าพวกมันเคยเป็น การมีอายุหนึ่งร้อยปี ไม่ได้สั่นคลอนพระสัญญาของพระเจ้าผ่านความไม่เชื่อ

ผมเพิ่งจะจินตนาการเรื่องนั้นได้ คุณมิอาจจะหรือครับ? เห็นไหมครับ ซาร่าห์ตื่นขึ้นมาตอนเช้า พระเจ้าตรัสว่า  “อับราฮัม!” ตรัสว่า “อับราฮัม ท่านกำลังจะมีบุตร”

ซาร่าห์ก็ลุกขึ้น กล่าวว่า “ท่านรู้สึกอย่างไร ซาร่าห์?” นี่คือความหลากหลายที่ผสมปนเปน แต่กระนั้นฟัง “ไม่แตกต่างกัน”

“ดีล่ะ ขอพระสิริจงมีแด่พระเจ้า พวกเรากำลังจะมีบุตร!” ไปรับสายตาของนก และปักหมุดและทุกสิ่งทุกอย่าง เตรียมพร้อม ตกลงครับ อีกเดือนหนึ่งผ่านไป “ซาร่าห์ ท่านรู้สึกอย่างไร?” “ไม่แตกต่างกัน” ปีหนึ่งผ่านไป “ซาร่าห์ สิ่งใดเกี่ยวกับมันเล่า?” “ไม่แตกต่างกัน” สิบปีผ่านไป “ไม่แตกต่างกัน” ยี่สิบห้าปีที่ผ่านไป “ไม่แตกต่างกัน”

อับราฮัม แทนที่จะอ่อนแอลง เขากลับแข็งแรงขึ้นและแข็งแรงขึ้น เขารู้ว่ามันกำลังเป็นปาฏิหารย์มากขึ้นตลอดเวลาเพราะเขาเชื่อพระเจ้า และเขาไม่ได้สั่นคลอนจากพระสัญญาของพระเจ้าผ่านความไม่เชื่อ เขากล่าวว่า “พวกเรากำลังจะมีบุตร!” และในเช้าวันหนึ่งครรภ์ของซาร่าห์เริ่มบวมและอิสอัคน้อยได้บังเกิดมา เพราะอับราฮัมเชื่อพระเจ้า และเขามองดูที่สิ่งทั้งหลาย ... นับสิ่งเหล่านั้นที่ไม่ได้เป็นแม้ว่าพวกเขาเป็น .....

โดยไม่ใช่ความรู้สึก ไม่ใช่โดยสิ่งที่มองเห็น คุณไม่เดินตามความรู้สึกหรือสิ่งที่มองเห็น มันเป็นโดยความเชื่อ และเมื่อพระเจ้าได้ทรงทำให้สิ่งใดเด่นชัด ตรัสว่า “ขณะเมื่อท่านจะอธิษฐานขอสิ่งใด จงเชื่อว่าได้รับ และท่านจะได้รับสิ่งนั้น” พระเจ้าตรัสดังนั้น; มันจึงต้องเป็นอย่างนั้น! อาเมน พวกปีศาจ!

ความเชื่อในพระบิดา ความเชื่อในพระบุตร

ความเชื่อในพระวิญญาณบริสุทธิ์ สามในหนึ่ง

พวกปีศาจจะสั่นสะเทือนและพวกคนบาปตื่น

ความเชื่อในพระเยโฮวาห์จะเขย่าทุกสิ่งทุกอย่างได้

นั่นใช่ครับ โอ้! แน่นอนมันเป็น! จงมีความเชื่อในพระเจ้า มองไปที่พระองค์ คุณจงอย่าเคลื่อนไหว จงอยู่ตรงที่นั่น พระเจ้าตรัสดังนั้น!

และพวกปีศาจ! พวกมันคืออะไร? พวกมันคือพวกสิ่งที่เป็นฝ่ายวิญญาณ ตอนนี้คุณหมอบอกว่า “คุณเป็นโรคมะเร็ง, คุณเป็นวัณโรค คุณเป็นโรคต้อกระจก, คุณเป็นโรคเยื่อหุ้มปอดอักเสบ, คุณเป็นโรคนี้” มันเป็นวิญญาณชั่ว! มันเป็นชีวิต และเบื้องหลังชีวิตนั้นเป็นวิญญาณ มีกี่คนที่รู้และสามารถเห็นโรคมะเร็ง, ต้อกระจกได้ มันเป็นวิญญาณที่มีชีวิตอยู่ในมัน? ดีล่ะครับ ไม่มีอะไรที่สามารถมีชีวิตได้โดยปราศจากวิญญาณ ดังนั้นจึงต้องมีชีวิตเพื่อจะปฏิบัติการสิ่งนั้นบางแห่ง

แม้แต่ต้นไม้ต้นนั้นที่นั่นก็มีชีวิตอยู่ในมัน วิทยาศาสตร์ทั้งหมดในโลกนี้ไม่สามารถทำใบหญ้าได้สักใบเดียว คุณรู้เรื่องนั้นไหมครับ? พวกเขาทำบางสิ่งบางอย่างที่ดูคล้ายกับมัน แต่พวกเขาไม่สามารถค้นหาสูตรของชีวิตได้ นั่นคือพระเจ้า ดูเถิดครับ

พระเยซูตรัสกับต้นไม้นั้นว่า “เจ้าถูกสาปแช่ง เจ้าไม่มีผลเลย และเจ้าจะไม่มีเลย”

พวกเขาได้ผ่านกลับไปที่นั่น มันเป็นเวลาประมาณ 8:00 น. ในตอนเช้าวันนั้น ผ่านกลับไปประมาณ 11:00 น. ขณะที่พวกเขากำลังจะไปทานอาหารค่ำ เปโตรกล่าวว่า “ดูที่ต้นไม้นั่น! มันตายจากรากขึ้นมา” ทำไม? พระเยซูตรัสสำทับชีวิตที่อยู่ในต้นไม้นั้น (ที่อยู่ในราก) และสิ่งทั้งหมดได้ตายไป ฮาเลลูยา!

พระเยซูคริสต์องค์เดียวกันทรงสามารถกระหนาบโรคมะเร็งจากราก และสิ่งทั้งหมดจะตาย ต้นไม้ต้นนั้นกำลังยืนอยู่ที่นั่นเป็นเหมือนกับที่มันเคยเป็นหลายชั่วโมงก่อน แต่คุณจะพบว่าใบไม้ทั้งหลายเริ่มร่วงหล่นไป และจากนั้นเปลือกเริ่มลอกออก และเริ่มที่จะหลุดออกไป วันหลังจากวันและสัปดาห์หลังจากสัปดาห์และหลังจากสักพักหนึ่ง ไม่มีแม้แต่จุดเดียวของต้นไม้นั้นเหลืออยู่ ฮาเลลูยา! มะเร็ง, เนื้องอก, ต้อกระจก หรือสิ่งอื่นใด จะต้องไปเมื่อพระคริสต์ทรงสั่ง พระองค์ทรงขับผี พระองค์ตรัสว่า “เขาจะขับผีออกโดยนามของเรา เขาจะพูดภาษาใหม่หลายภาษา เขาจะจับงูได้ ถ้าหากเขาดื่มยาพิษอย่างใด จะไม่เป็นอันตรายแก่เขา และเขาจะวางมือบนคนไข้คนป่วย แล้วคนเหล่านั้นจะหายโรค”

คุณรักพระองค์ไหมครับ? ผมขออภัยครับ ผมเก็บคุณไว้หนึ่งชั่วโมงที่นี่ตอนบ่ายวันนี้ อยู่ที่นี่ คุณรักพระเจ้าไหมครับ? ดีล่ะครับ สิ่งใดจะเกิดขึ้นตอนนี้ถ้าหาก-ถ้าหากคุณยอมรับว่า พระคริสต์ทรงเป็นผู้ทรงเยียวยารักษาโรคของคุณ และเชื่อในใจของคุณว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ และคุณเชื่อไหมว่าคุณหายโรคแล้ว? คุณจะเชื่อไหมว่าคุณหายโรคแล้ว? จงอย่าปล่อยให้วิญญาณชั่วปักสิ่งอื่นใดบนคุณ ให้ดำเนินต่อไป “คุณหมอ” บอก-บอกว่า “คุณหมอ มันเหมือนอะไร?” เขากล่าวว่า “เหตุไฉน มันยังคงอยู่ที่นั่น”

ในใจของคุณคุณรู้; คุณรู้สิ่งที่ได้เกิดขึ้น สิ่งแรกเขาจะบอกว่า “บอกได้ไหมครับ แปลกใจว่าอะไรได้เกิดขึ้นกับสิ่งนั้น?”

แล้วบอกว่า “ให้มองดูครับ คุณหมอ ผมกำลังจะบอกคุณ นี่คือสิ่งที่ได้เกิดขึ้น: พระเยซูคริสต์ได้ทรงเยียวยารักษาโรคให้แก่ผม นั่นใช่ครับ พระเยซูคริสต์ได้ทรงเยียวยารักษาโรคให้แก่ผม”

ตกลงครับ ให้พวกเราก้มศีรษะของพวกเราลงสักครู่หนึ่ง และบราเดอร์วิลเล็ตต์ ให้คุณมาที่นี่สักหนึ่งนาทีได้ไหมครับ บราเดอร์?

เวลานี้พระบิดาแห่งฟ้าสวรรค์ ข้าพระองค์ทั้งหลายขอบพระคุณสำหรับพระโลหิตของพระเยซูคริสต์ และบางทีบางครั้งที่ผู้รับใช้ของพระองค์ พระบิดา ไม่ได้ใช้ปัญญา โดยการพูดนานมาก แต่ข้าพระองค์อาจจะรู้สึกเหมือน อ. เปาโล ที่เทศนาตลอดทั้งคืนในคืนหนึ่ง เพื่อนผู้เล็กน้อยคนหนึ่งได้ตกลงมาจากหน้าต่างและเสียชีวิต และอัครสาวกท่านนั้นด้วยพระวจนะของพระเจ้าในชีวิตของท่าน ได้เดินไปและเอนกายของท่านลงบนเด็กคนนั้น ชีวิตเข้ามาในตัวเขาและเขาก็มีชีวิตอยู่อีกครั้งหนึ่ง

พระบิดาผู้ทรงรักยิ่ง ข้าพระองค์ตระหนักดีว่าดวงอาทิตย์ตกของ-อารยธรรมอันยิ่งใหญ่นี้กำลังจะตกในขณะนี้ หนทางที่ผ่านมา ระหว่างวันที่หายไป เงาตอนเย็นกำลังจะตกลง แสงสว่างอันมากกำลังจะหมดไปจากอาณาจักรของพระเจ้าเพื่อจะแทนที่ด้วยความมืดทึบนี้ที่กำลังมาบนแผ่นดินโลก พระเจ้า ข้าพระองค์ตระหนักดีว่า ข้าพระองค์กำลังแก่ขึ้นทุกวัน ขอทรงให้ข้าพระองค์ไปเถิด พระบิดา; ขอทรงให้ข้าพระองค์แข็งแรง; ขอทรงช่วยข้าพระองค์ที่จะบอกความจริงอันยิ่งใหญ่นี้ได้ทุกหนแห่ง ขอทรงช่วยข้าพระองค์ทั้งหลายตอนบ่ายวันพรุ่งนี้ที่ข้าพระองค์ทั้งหลายจะเข้าใจได้มากขึ้น

และพระเจ้าผู้ทรงรักยิ่ง ขอทรงอวยพรพวกผู้ชมกลุ่มเล็กๆ นี้ตอนบ่ายวันนี้ คืนนี้เมื่อพวกเขามารวมกันในการประชุมการเยียวยารักษาโรค ขอให้ชายและหญิงทุกคนจะมารวมกันและพูดคุยและบอกว่า “ตอนนี้ที่นี่ ไม่มีข้อสงสัยใดๆ อีกต่อไป ข้าพระองค์ทั้งหลายเข้าใจว่ามันมาจากที่ใดเวลานี้ ข้าพระองค์ทั้งหลายรู้ว่ามันเป็นวิญญาณชั่ว ข้าพระองค์ทั้งหลายรู้ตอนที่มันออกไป.... มันต้องมายังพระดำรัสสั่งของพระเจ้า มันต้อง พระเจ้าได้ตรัสแล้วดังนั้น; มันต้องออกไป” จากนั้นขอให้พวกเขาออกไปด้วยความสุข, ด้วยความชื่นชมยินดี, ด้วยคำกล่าวอ้างการเยียวยารักษาโรคของพวกเขา ไม่มีอะไร ขอให้ไม่มีสิ่งใดยืนในทางของพวกเขาอีกต่อไป ให้ไปด้วยความเชื่อ

และพระเจ้า ขอให้คริสตจักรเล็กๆ แห่งนี้ที่นี่ (และคริสตจักรทั้งหลายเหล่านี้ที่ร่วมมือกัน) มีการฟื้นฟูหลังจากการประชุมนี้ พระบิดา นั่นจะรวมกลุ่มให้มันสำเร็จ และจิตวิญญาณหลายร้อยดวงจะถูกนำเข้ามาในอาณาจักรของพระเจ้า โปรดประทานเถิด พระบิดา ขอให้บรรดาชายและหญิงที่นี่ (จากทั่วประเทศและสถานที่อื่นๆ) ขอให้พวกเขาได้นำคำเทศนานี้กลับไปที่คริสตจักรทั้งหลายของพวกเขา และขอให้พวกเขามีการฟื้นฟูสมัยเก่า โปรดประทานเถิด พระบิดา ขอทรงยกโทษให้อภัยบาปทั้งสิ้นของข้าพระองค์ทั้งหลายในเวลานี้ ขอทรงช่วยให้ข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์เถิด ในพระนามพระเยซูคริสต์ อาเมน

ผมแปลกใจครับว่า ในขณะที่คุณกำลังอยู่ที่นี่ มีคนบาปคนหนึ่งในอาคารนี้ในวันนี้ที่จะบอกว่า “บราเดอร์บรานฮาม, โปรดจดจำข้าพเจ้าในคำอธิษฐาน” หรือไม่ครับ? คุณจะ-คุณจะยกมือของคุณขึ้นมาหรือไม่ครับ? มีคนบาปคนนั้นหรือไม่ครับ? ผมไม่ได้... พระเจ้าอวยพรคุณ สุภาพสตรี มีไหมครับ? พระเจ้าอวยพรคุณ, ท่าน และคุณ, และคุณ, และคุณ พระเจ้าอวยพรคุณ ผมแปลกใจว่า ถ้าหากคุณ... เวลานี้นี่คือสำหรับคุณ

เห็นไหมครับ ผมไม่เชื่อในการไปข้างหลังในพวกผู้ชม ผม-ผมไม่วิจารณ์คนอื่นๆ ที่ทำสิ่งนี้ ผมไม่เชื่อในการไปในพวกผู้ชมและการพยายามจะดึงคนบางคน เห็นไหมครับ? ไม่มีผู้ใดมาถึงได้นอกจากพระบิดาได้ทรงชักนำเขามา เห็นไหมครับ? นั่นใช่ครับ คุณเพียงแค่จะดึงเขาขึ้นไปที่นั่นซึ่งต่อต้านกับเจตนารมณ์ของเขา เห็นไหมครับ? แต่กระนั้นถ้าหากพระเจ้าทรงเคาะที่ใจของคุณ คุณเป็นบุคคลที่ได้รับสิทธิพิเศษมากที่สุดในโลก คุณอาจจะไม่รู้ว่ามีกี่คนที่ผมเคยได้สนทนาเพื่อจะ...